สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) ด้วยแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1772 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1809 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.3290 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3260 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7847 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7859 ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 112.15 เยน จากระดับ 111.89 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9784 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9749 ฟรังก์สวิส
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.19% สู่ระดับ 93.489 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนให้แข็งค่าขึ้นภายหลังจากสหรัฐได้เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีในหลายรายการ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย. ด้วยปัจจัยหนุนจากการผลิตรถยนต์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งบ่งชี้ถึงการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคสหรัฐ
ขณะที่สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านดีดตัวขึ้น 4 จุด สู่ระดับ 68 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.
ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ดัชนีราคานำเข้าเดือนก.ย.ดีดตัวขึ้น 0.7% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2016 หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนส.ค.
นอกจากนี้สกุลเงินดอลลาร์ยังคงได้แรงหนุนจากถ้อยแถลงล่าสุดของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ซึ่งระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐมีทิศทางการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ขณะที่ตลาดแรงงานก็อยู่ในภาวะที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า เฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นี้
นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ย., รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเบื้องต้นเดือนต.ค.โดยเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.ย.โดย Conference Board และยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย.