ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: เงินปอนด์พุ่ง รับคาดการณ์แบงก์ชาติอังกฤษขึ้นดอกเบี้ยหลัง GDP แข็งแกร่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 26, 2017 07:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมสัปดาห์หน้า หลังจากมีรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอังกฤษขยายตัวแข็งแกร่งขึ้นในไตรมาส 3 ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาการเปิดเผยชื่อว่าที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3255 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3121 ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.1810 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1759 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7698 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7775 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 113.72 เยน จากระดับ 113.86 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9888 ฟรังก์ จากระดับ 0.9907 ฟรังก์

เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นหลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่า BoE อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี ในการประชุมสัปดาห์หน้า หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) รายงานว่า GDP ของอังกฤษขยายตัวที่ระดับ 0.4% ในไตรมาสที่ 3 สูงกว่าไตรมาสที่ 2 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 0.3% และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

เมื่อเทียบรายปี เศรษฐกิจอังกฤษขยายตัว 1.5% ในไตรมาส 3 โดยได้แรงหนุนจากการเติบโตของภาคการผลิตและบริการ รวมทั้งความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมรถยนต์

นักลงทุนในตลาดคาดการณ์ว่า ขณะนี้มีความเป็นไปได้ 84% ที่ BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 0.5% ในการประชุมวันที่ 2 พ.ย. หลังจากที่ได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 0.25% ในเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว หลังการทำประชามติของอังกฤษเพื่อแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

ส่วนสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง จากการที่นักลงทุนชะลอการเข้าซื้อดอลลาร์ พร้อมกับจับตาการเปิดเผยชื่อว่าที่ประธานเฟด โดยนางซาราห์ แซนเดอร์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะประกาศรายชื่อผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานเฟดในไม่ช้า พร้อมระบุว่า นายเจอโรม พาวเวล ผู้ว่าการเฟด และนายจอห์น เทย์เลอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เป็น 2 ตัวเก็งที่ปธน.ทรัมป์พิจารณาคัดเลือกเป็นประธานเฟด

ทางการสหรัฐได้เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ แต่ก็ไม่สามารถหนุนดอลลาร์ให้แข็งแกร่งขึ้นได้ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย.พุ่งขึ้น 18.9% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 667,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2550 หลังจากแตะระดับ 561,000 ยูนิตในเดือนส.ค.

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป พุ่งขึ้น 2.2% ในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 2.0% ในเดือนส.ค. โดยการทะยานขึ้นของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนได้รับปัจจัยหนุนจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อเครื่องบินพาณิชย์ และรถยนต์

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ย., ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.ย., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 3


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ