สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินเมื่อวานนี้
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1668 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1810 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.3165 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3255 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7674 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7698 ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 113.93 เยน จากระดับ 113.72 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9967 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9888 ฟรังก์สวิส
ECB ได้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ ที่ระดับ 0% อันเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.4% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%
นอกจากนี้ ที่ประชุม ECB ยังได้ประกาศคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน จนถึงเดือนธ.ค.
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.94% สู่ระดับ 94.590 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนให้แข็งค่าขึ้นภายหลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ลงมติผ่านร่างงบประมาณปี 2561 ฉบับของวฺฒิสภา วงเงิน 4 ล้านล้านดอลลาร์ ด้วยคะแนนเสียง 216 ต่อ 212 คะแนน ซึ่งนับเป็นการกรุยทางสู่การพิจารณาแผนปฏิรูประบบภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ต่อไป
นักลงทุนในตลาดการเงินยังคงจับตาการเลือกผู้ที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ ขณะที่รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า นางเจเน็ต เยลเลน ได้หลุดโผรายชื่อผู้ที่จะได้รับการเสนอชื่อให้มาทำหน้าที่ประธานเฟดคนใหม่แล้ว ซึ่งส่งผลให้นายเจอโรม พาวเวล ผู้ว่าการเฟด และนายจอห์น เทย์เลอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เป็น 2 ตัวเก็งที่ปธน.ทรัมป์พิจารณาคัดเลือกเป็นประธานเฟด
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 10,000 ราย สู่ระดับ 233,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 235,000 ราย
ทางด้านสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 106 ในเดือนก.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 0.4% นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนก.ย.ปรับตัวขึ้น 0.3% สู่ระดับ 6.09 แสนล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับเดือนส.ค.ที่ขยายตัว 0.8% โดยสต็อกสินค้าภาคส่งเดือนก.ย.ออกมาต่ำกว่าการคาดการณ์ที่ระดับ 0.4%
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 3