สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักส่วนใหญ่ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 ธ.ค.) โดยได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานข่าวที่ว่าวุฒิสภาสหรัฐให้การอนุมัติร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีวงเงิน 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.1856 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1892 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าแตะ 1.3474 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3467 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.7597 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7611 ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 112.65 เยน จากระดับ 112.05 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9855 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9762 ฟรังก์สวิส
ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.32% สู่ระดับ 93.186 เมื่อคืนนี้
เงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุน หลังเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา วุฒิสภาสหรัฐมีมติรับรองร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีด้วยคะแนนเสียง 51-49 โดยวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันทุกคนยกเว้นนายบ็อบ คอร์กเกอร์ ต่างลงคะแนนเสียงรับรองร่างกฎหมายฉบับนี้ ขณะที่วุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครตทุกคนลงคะแนนเสียงไม่รับรองร่างกฎหมายดังกล่าว
หลังจากนี้ สภาคองเกรสสหรัฐจะต้องรวมร่างกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบของวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรเป็นร่างเดียวกัน และให้การอนุมัติ ก่อนที่จะส่งต่อไปให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามเป็นกฎหมายต่อไป
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย. ซึ่งจะมีการรายงานวันศุกร์นี้เวลา 20.30 น. ตามเวลาไทย เพื่อประเมินท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เรื่องดอกเบี้ย
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่จะมีการรายงานคืนนี้ ได้แก่ ยอดส่งออก-นำเข้า และดุลการค้าเดือนต.ค. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการ และรวมภาคผลิต-บริการเดือนพ.ย.จากมาร์กิต และดัชนีภาคบริการเดือนพ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)