สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักบางสกุล ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 ธ.ค.) ขณะนักลงทุนรอดูผลการลงมติรับรองร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้ายในวุฒิสภาสหรัฐ ซึ่งมีขึ้นหลังจากที่ตลาดปิดทำการแล้ว
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1846 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1783 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.3386 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3385 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7663 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7667 ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 112.92 เยน จากระดับ 112.56 เยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9854 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9860 ฟรังก์สวิส
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.27% สู่ระดับ 93.446 เมื่อคืนนี้
สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติเห็นชอบต่อร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีที่ผลักดันโดยพรรครีพับลิกัน ด้วยคะแนนเสียง 227 ต่อ 203 เสียง ก่อนที่วุฒิสภาจะลงมติในช่วงเย็นวานนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าของวันพุธที่ 20 ธ.ค.ตามเวลาไทย ซึ่งหากวุฒิสภาอนุมัติร่างกฎหมายดังกล่าวด้วย ก็จะส่งผลให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์สามารถลงนามรับรองเป็นกฎหมายได้อย่างเร็วที่สุดภายในวันนี้
สำหรับเนื้อหาหลักๆของร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับนี้ ประกอบไปด้วยการคงจำนวนขั้นบันไดของการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไว้ที่ 7 ขั้น คือที่ระดับ 10%, 12%, 22%, 24%, 32%, 35% และ 37% โดยลดอัตราภาษีขั้นสูงสุดสู่ระดับ 37% จากระดับ 39.6% ขณะเดียวกัน จะปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ลงสู่ระดับ 21% จากระดับ 35% โดยมีผลบังคับใช้ทันทีในวันที่ 1 ม.ค.ปีหน้า
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านในสหรัฐปรับตัวขึ้นในเดือนพ.ย. แตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี สวนทางคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยได้แรงหนุนจากการสร้างบ้านสำหรับครอบครัวเดี่ยว ซึ่งพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี
ทั้งนี้ ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 3.3% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.297 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงสู่ระดับ 1.250 ล้านยูนิต
นักลงทุนยังจับตากระทรวงพาณิชย์สหรัฐเตรียมเปิดเผยการประมาณการครั้งสุดท้ายของ GDP ประจำไตรมาส 3/2560 ในวันพรุ่งนี้ ส่วนการประมาณการครั้งที่ 2 ซึ่งได้เปิดเผยไปเมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า GDP ขยายตัวที่ระดับ 3.3% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระดับ 3.0%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่จะเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 (ประมาณการครั้งสุดท้าย), ดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนพ.ย.จากเฟดชิคาโก, ดัชนีการผลิตเบื้องต้นเดือนธ.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพ.ย., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย., ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย.