สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 ธ.ค.) ขณะนักลงทุนซึมซับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.โดยคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1897 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1864 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.3399 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3379 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 0.7775 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7728 ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเยน ที่ระดับ 113.25 เยน จากระดับ 113.16 เยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9867 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9893 ฟรังก์สวิส
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.25% สู่ระดับ 93.024 เมื่อคืนนี้
คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนธ.ค. ลดลงสู่ระดับ 122.1 จากระดับเดือนพ.ย.ที่ 128.6 อย่างไรก็ตาม ระดับของมุมมองที่เป็นบวกของชาวอเมริกันในปีนี้ก็ยังอยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2543
ขณะที่สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ขยับขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และหากเทียบเป็นรายปี ดัชนีปรับตัวขึ้น 0.8% โดยได้รับแรงหนุนจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้น หลังจากตัวเลขจ้างงานขยายตัวแข็งแกร่ง
นักวิเคราะห์กล่าวว่า นักลงทุนจับตาเหตุการณ์สำคัญที่อาจเกิดขึ้นในปีหน้า ซึ่งรวมถึงการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อาจประกาศแผนการก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ พร้อมทั้งจับตานโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานเฟด ต่อจากนางเจเน็ต เยลเลน ในเดือนก.พ.ปีหน้า
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนพ.ย.