สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 ม.ค.) ท่ามกลางกระแสข่าวที่ว่า จีนอาจพิจารณายุติการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1963 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1932 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.3513 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3533 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 0.7839 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7824 ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.32 เยน จากระดับ 112.61 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9778 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9832 ฟรังก์สวิส
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.19% สู่ระดับ 92.351 เมื่อคืนนี้
ค่าเงินสกุลดอลลาร์ร่วงลงหลังสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เจ้าหน้าที่จีนซึ่งมีหน้าที่พิจารณาการถือครองทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีน ได้เสนอให้รัฐบาลจีนชะลอ หรือยุติการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
แหล่งข่าวระบุว่า พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเริ่มมีความน่าดึงดูดลดน้อยลง เมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่นๆ นอกจากนี้ ความตึงเครียดของความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่อาจทำให้จีนลดการซื้อพันธบัตรสหรัฐ
ทั้งนี้ จีนนับเป็นผู้ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐรายใหญ่ที่สุดในโลก และมีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศสูงที่สุดในโลก
ขณะเดียวกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือนเมื่อวานนี้ โดยอยู่ที่ระดับ 2.593% หลังจากดีดตัวทะลุ 2.50% ในวันก่อนหน้า ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะซบเซาของตลาดพันธบัตรสหรัฐ
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดนั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ราคานำเข้าของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนธ.ค. และเพิ่มขึ้น 3.0% ในปี 2560
ขณะที่ราคาส่งออกเดือนธ.ค.ของสหรัฐปรับตัวลง 0.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว ขณะที่ราคาส่งออกปี 2560 ปรับตัวขึ้น 2.6%
นักลงทุนจับตาข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐเพื่อหาสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือนธ.ค.ในวันนี้ และจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนธ.ค.ในวันพรุ่งนี้ สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนพ.ย.