ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรแข็งค่าเทียบดอลล์ หลัง ECB ส่งสัญญาณถอนนโยบายผ่อนคลายการเงิน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 12, 2018 07:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 ม.ค.) หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนธ.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่า ECB กำลังเตรียมถอนตัวจากการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ จากแรงกดดันของข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2038 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1963 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.3534 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3513 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 0.7893 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7839 ดอลลาร์

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.11 เยน จากระดับ 111.32 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9761 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9778 ฟรังก์สวิส

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ หลัง ECB เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนธ.ค. โดยระบุว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ ECB จะทำการทบทวนแนวทางการสื่อสารของ ECB ในต้นปีนี้ และจะปรับใช้ถ้อยคำในแถลงการณ์ของการประชุมอย่างค่อยเป็นค่อยไปเพื่อสะท้อนถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวมากขึ้น

รายงานการประชุมดังกล่าวบ่งชี้ว่า ECB จะตัดถ้อยคำที่ว่า "ECB จะซื้อพันธบัตรจนกระทั่งอัตราเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายของ ECB" และเป็นการส่งสัญญาณว่า ECB พร้อมจะลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งมีมูลค่า 2.55 ล้านล้านยูโร โดยจะถอนตัวจากการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ขณะที่เศรษฐกิจแข็งแกร่งขึ้น

รายงานดังกล่าวแสดงว่า คณะกรรมการ ECB มองว่าการสื่อสารเกี่ยวกับทิศทางของอัตราดอกเบี้ยจะได้รับความสำคัญมากขึ้น ขณะที่การซื้อพันธบัตรจะมีบทบาทลดลงในฐานะเครื่องมือด้านนโยบายของ ECB

นอกจากนี้ การที่เจ้าหน้าที่ ECB ได้มีการหารือกันอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมหลังจากโครงการ QE สิ้นสุดลง บ่งชี้ว่าคณะกรรมการ ECB ให้การสนับสนุนมากขึ้นต่อการตัดสินใจยุติโครงการในปีนี้ หลังจากที่ได้ดำเนินการมานาน 3 ปี

ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ภายหลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐลดลง 0.1% ในเดือนธ.ค.เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนส.ค.2559 หลังจากที่ได้เพิ่มขึ้น 0.4% ติดต่อกัน 2 เดือน

ส่วนจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกก็เพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน โดยเพิ่มขึ้น 11,000 ราย สู่ระดับ 261,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ ซึ่งได้แก่ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนพ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ