สกุลเงินดิจิทัลฟื้นตัวในวันนี้ หลังจากดิ่งลงอย่างหนักติดต่อกัน 2 วัน จนทำให้มูลค่าของบิตคอยน์วูบหายไปมากกว่า 50% จากความกังวลเกี่ยวกับการที่จีนและเกาหลีใต้อาจมีมาตรการห้ามซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล
ทั้งนี้ บิตคอยน์ และอีเธอเรียม ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดในโลกเป็นอันดับ 1 และ 2 ตามลำดับ สามารถดีดตัวขึ้นในวันนี้ โดยบิตคอยน์ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 11,218.84 ดอลลาร์ หลังดิ่งลงแตะ 9,199.59 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ ส่วนอีเธอเรียมปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1,004.43 ดอลลาร์ หลังดิ่งลงแตะ 780.92 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์
ทางด้านริพเพิลพุ่งขึ้นมากกว่า 30% สู่ระดับ 1.42 ดอลลาร์ในวันนี้ หลังจากร่วงลงแตะ 0.90 ดอลลาร์เมื่อวานนี้
ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนเรียกร้องให้รัฐบาลสั่งห้ามการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล
ส่วนนายปาร์ก ซาง-กี รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ทางกระทรวงกำลังร่างกฎหมายเพื่อที่จะยุติการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดในประเทศ เพื่อลดความร้อนแรงของสกุลเงินเหล่านี้
เขากล่าวว่า กระทรวงกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับกระแสความคลั่งไคล้สกุลเงินดิจิทัล และการยุติการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลคือเป้าหมายหนึ่งที่กระทรวงวางไว้ โดยเขาระบุว่า การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลในขณะนี้มีความคล้ายคลึงการพนันและการเก็งกำไร
การซื้อขายบิตคอยน์ และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ได้รับความนิยมอย่างมากในเกาหลีใต้ ซึ่งนักลงทุนรายย่อยจำนวนมากได้ลาออกจากงานประจำที่ทำเพื่อมาซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลอย่างเต็มตัว หลังจากที่สกุลเงินเหล่านี้ให้ผลตอบแทนอย่างมากในปีที่แล้ว
เกาหลีใต้ถือเป็นตลาดซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของโลก โดยมีสัดส่วนการซื้อขายบิตคอยน์ 6-12% ของปริมาณการซื้อขายทั่วโลก ขณะที่มีการซื้อขายอีเธอเรียม 14% และริพเพิล 33%