นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ยูโรจะดีดตัวแตะระดับ 1.30 ดอลลาร์ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า โดยได้ปัจจัยบวกจากแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB), เศรษฐกิจยูโรโซนที่แข็งแกร่งขึ้น และความเสี่ยงทางการเมืองที่ลดน้อยลง
ทั้งนี้ รายงานการประชุมนโยบายการเงินประจำวันที่ 25 ม.ค.ของ ECB ที่มีการเปิดเผยวานนี้ บ่งชี้ว่า อัตราเงินเฟ้อกำลังเร่งตัวขึ้น โดยคาดว่าจะแตะระดับ 1.5%, 1.7% และ 1.8% ในปี 2561, 2562 และ 2563 ตามลำดับ โดยมีการปรับตัวเลขเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 0.1% สำหรับปี 2561 และ 2562
ตลาดการเงินมองว่า ECB จะค่อยๆยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เนื่องจากเงินเฟ้อได้ปรับตัวขึ้น และ ECB จะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในที่สุด ซึ่งจะดึงดูดการไหลเข้าของกระแสเงินทุนสู่ยูโรโซน และส่งผลให้ยูโรแข็งค่าขึ้น
ยูโรได้ดีดตัวขึ้นตั้งแต่ต้นปีนี้เทียบกับสกุลเงินหลายสกุล ซึ่งรวมทั้งดอลลาร์ ขานรับเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในภูมิภาค และความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เบาบางลง
แม้ว่าการแข็งค่าของยูโรอาจสร้างปัญหาต่อ ECB แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในยูโรโซน ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะแตะระดับ 2.3% ในปีนี้ จะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถรับมือกับการแข็งค่าของยูโร และไม่ส่งผลให้ ECB หันกลับมาใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ