สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์บริเวณกรอบบนของ 105 เยนในช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนที่จะขยับตัวขึ้นเล็กน้อยในแนวเส้น 106 เยน ในการซื้อขายเช้านี้ที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียว หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ประกาศว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมในสัปดาห์หน้า ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่า นโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐอาจก่อให้เกิดสงครามการค้า และทำให้นักลงทุนเทขายเงินดอลลาร์และหันมาซื้อเงินเยนซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ณ เที่ยงวันนี้ตามเวลาโตเกียว ดอลลาร์เคลื่อนไหวที่ 106.04-106.05 เยน เมื่อเทียบกับ 106.20-106.30 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 106.80-106.81 เยนที่ตลาดโตเกียวเวลา 17.00 น. ของเมื่อวานนี้
ยูโรเคลื่อนไหวที่ 1.2273-1.2273 ดอลลาร์ และ 130.14-130.15 เยน เมื่อเทียบกับ 1.2261-1.2271 ดอลลาร์ และ 130.23-130.33 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และเทียบกับ 1.2200-1.2201 ดอลลาร์ และ 130.30-130.34 เยน เมื่อช่วงเย็นเมื่อวานนี้ที่ตลาดโตเกียว
ดอลลาร์ได้รับแรงกดดันหลังจากปธน.ทรัมป์ประกาศว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กในอัตรา 25% และอลูมิเนียม 10% ในสัปดาห์หน้า โดยมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะปกป้องอุตสาหกรรมของสหรัฐ
การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ปธน.ทรัมป์ได้ประชุมร่วมกับกลุ่มผู้บริหารธุรกิจที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ ซึ่งรวมถึงผู้บริหารของบริษัทยูเอส สตีล คอร์ป และเซ็นจูรี อลูมิเนียม โดยทรัมป์เชื่อว่า มาตรการดังกล่าวจะช่วยปกป้องอุตสาหกรรมของสหรัฐ และจะช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง
นักวิเคราะห์กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวของทรัมป์อาจส่งผลให้เกิดสงครามทางการค้า และจะกลับมาสร้างความเสียหายต่อผู้ผลิตของสหรัฐเอง เนื่องจากบริษัทสหรัฐจะต้องเผชิญกับการตอบโต้จากบริษัทคู่แข่งต่างชาติ นอกจากนี้ มาตรการดังกล่าวจะผลักดันให้ราคาสินค้าและการบริการปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้บริโภคของสหรัฐ