ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะกรอบบนของ 106 เยนในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวเช้านี้ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี เพื่อใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม โดยยกเว้นแคนาดาและเม็กซิโก พร้อมส่งสัญญาณเปิดทางให้ประเทศอื่นๆสามารถเจรจากับสหรัฐเพื่อขอการยกเว้นภาษีดังกล่าวได้ ส่งผลให้นักลงทุนอยากเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงกันมากขึ้น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ณ เที่ยงวันนี้ตามเวลาโตเกียว ดอลลาร์เคลื่อนไหวที่ 106.68-106.69 เยน เมื่อเทียบกับ 106.19-106.29 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 105.94-105.95 เยนที่ตลาดโตเกียวเวลา 17.00 น. ของเมื่อวานนี้
ยูโรเคลื่อนไหวที่ 1.2309-1.2311 ดอลลาร์ และ 131.33-131.37 เยน เมื่อเทียบกับ 1.2306-1.2316 ดอลลาร์ และ 130.68-130.78 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และเทียบกับ 1.2411-1.2412 ดอลลาร์ และ 131.49-131.53 เยน เมื่อช่วงเย็นเมื่อวานนี้ที่ตลาดโตเกียว
นักลงทุนลดการซื้อเงินเยนซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย และพากันเข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์เสี่ยง หลังจากปธน.ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี เพื่อใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กในอัตรา 25% และอลูมิเนียม 10% จากประเทศต่างๆ ยกเว้นแคนาดาและเม็กซิโก ซึ่งช่วยลดความร้อนแรงในสงครามการค้าโลก และลดความตึงเครียดในภูมิภาคอเมริกาเหนือลง
นอกจากนี้ กระแสข่าวที่ว่าปธน.ทรัมป์จะเข้าพบนายคิม จอง อิน ภายในเดือนพ.ค.นั้น ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยหนุนให้นักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์ด้วยเช่นกัน
โบรกเกอร์กล่าวว่า "นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับนโยบายการค้าของสหรัฐและความตึงเครียดเหนือคาบสมุทรเกาหลีลงแล้ว แต่ตลาดยังคงมีความผันผวนเล็กน้อย"