ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบเยน ถูกกดดันจากข่าวอื้อฉาวลบชื่อภรรยานายกฯญี่ปุ่นจากเอกสารซื้อขายที่ดิน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 12, 2018 21:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบเยน โดยถูกกดดันจากข่าวอื้อฉาวกรณีมีการลบชื่อของนางอากิเอะ อาเบะ ภรรยาของนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ออกจากเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการที่รัฐบาลขายที่ดินให้กับโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในราคาต่ำกว่าการประเมิน โดยโรงเรียนดังกล่าวดำเนินงานโดยนายโมริโตโม กาคุเอ็น ซึ่งมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนางอาเบะ

ณ เวลา 21.10 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.27% สู่ระดับ 106.48 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.23% สู่ระดับ 131.14 เยน และขยับขึ้น 0.07% สู่ระดับ 1.2314 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.05% สู่ระดับ 90.04

ดอลลาร์ดีดตัวในช่วงแรกต่อเนื่องจากวันศุกร์ จากการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาด ขณะที่ไม่ส่งสัญญาณเงินเฟ้อ

อย่างไรก็ดี ดอลลาร์อ่อนค่าลงในช่วงบ่าย จากข่าวอื้อฉาวกรณีลบชื่อภรรยานายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นออกจากเอกสารเกี่ยวข้องกับการที่รัฐบาลขายที่ดินให้กับโรงเรียนเอกชน

นายทาโร อาโสะ รมว.คลังญี่ปุ่น ยืนยันว่าตนจะไม่ลาออกจากตำแหน่ง แม้มีข่าวอื้อฉาวดังกล่าว

นายอาโสะ ซึ่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีอีกตำแหน่ง ได้แสดงความเสียใจต่อเรื่องดังกล่าว แต่ตนจะไม่ลาออกจากตำแหน่ง

ด้านนายโยชิฮิเดะ ซูกะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรี กล่าวเช่นกันว่า เขาไม่เห็นความจำเป็นที่นายอาโสะจะลาออกจากตำแหน่ง โดยนายอาโสะควรเป็นผู้นำในการสอบสวนกรณีดังกล่าว

กระทรวงการคลังญี่ปุ่นได้ออกแถลงการณ์ยอมรับในวันนี้ว่า ทางกระทรวงได้แก้ไขเอกสารที่ดินของรัฐซึ่งขายให้กับโรงเรียนแห่งหนึ่งในราคาต่ำกว่าราคาประเมิน

ทั้งนี้ นายโมริโตโม กาคุเอ็น เจ้าของโรงเรียนเอกชนซึ่งมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนางอาเบะ ได้ซื้อที่ดินขนาด 8,770 ตารางเมตร ในเมืองโตโยนากะ จังหวัดโอซาก้า ในราคา 134 ล้านเยน (1.18 ล้านดอลลาร์) ซึ่งคิดเป็นมูลค่าเพียง 14% ของราคาประเมินที่ดินแปลงดังกล่าว

ที่ดินผืนนี้ได้ถูกเตรียมไว้สำหรับสร้างโรงเรียนประถมแห่งใหม่ โดยมีนางอาเบะเป็นครูใหญ่กิตติมศักดิ์ ซึ่งเบื้องต้นได้มีการเซ็นสัญญาเช่ากับรัฐบาลไว้เป็นเวลา 10 ปี และให้คำมั่นว่าจะซื้อที่ดินหลังจากหมดระยะเวลาเช่าใน 10 ปีข้างหน้านี้ ในเวลาต่อมา นางอาเบะได้ลาออกจากตำแหน่งครูใหญ่กิตติมศักดิ์ในเดือนก.พ.ปีที่แล้ว หลังจากประเด็นดังกล่าวได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง

นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 20-21 มี.ค. ขณะที่ CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 86% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกในปีนี้ และมีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในเดือนมิ.ย. และครั้งที่ 3 ในเดือนก.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ