ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 มี.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงจำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานปรับตัวลดลง และดัชนีภาคการผลิตในรัฐนิวยอร์กซึ่งขยายตัวได้ดีเกินคาด
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่ระดับ 1.2303 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2374 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3934 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3972 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7798 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7881 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 106.25 เยน จากระดับ 106.29 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9516 ฟรังก์ จากระดับ 0.9448 ฟรังก์
ดอลลาร์ได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 226,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 158 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2513
ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์นั้น ลดลง 750 ราย สู่ระดับ 221,500 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังระบุว่า ดัชนีราคานำเข้าเดือนก.พ.ดีดตัวขึ้น 0.4% เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีราคานำเข้าจะเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.พ. ส่วนดัชนีราคาส่งออกเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน
ทางด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) พุ่งขึ้น 9.0 จุด สู่ระดับ 22.5 จุดในเดือนมี.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 15 จุด
ทั้งนี้ ดัชนียังคงอยู่สูงกว่าระดับ 0 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิตในนิวยอร์ก โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.พ., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนมี.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน