ดอลลาร์ดิ่งลงใกล้หลุดระดับ 105 เยนในวันนี้ จากความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งทำให้นักลงทุนส่งคำสั่งซื้อเยนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
นอกจากนี้ การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 3 ครั้งในปีนี้ แทนที่จะเป็น 4 ครั้งตามที่นักวิเคราะห์บางส่วนคาดการณ์ไว้ ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันดอลลาร์
ณ เวลา 20.03 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ดิ่งลง 0.64% สู่ระดับ 105.36 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.80% สู่ระดับ 129.76 เยน และร่วงลง 0.19% สู่ระดับ 1.2313 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.07% สู่ระดับ 89.72
ทำเนียบขาวระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เตรียมประกาศใช้อำนาจตามมาตรา 301 เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในวันนี้ เพื่อลงโทษจีนกรณีละเมิดสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐ
อย่างไรก็ดี มาตรการที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้จะไม่รวมถึงการจำกัดการลงทุนของจีนในสหรัฐ หรือจำกัดวีซ่านักศึกษา
ทั้งนี้ มาตรา 301 มอบอำนาจให้ประธานาธิบดีสหรัฐสามารถออกมาตรการตอบโต้ประเทศอื่นๆที่ละเมิดข้อตกลงทางการค้า หรือมีพฤติกรรมทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมกับสหรัฐ
ส่วนปอนด์ดีดตัวขึ้นเทียบดอลลาร์และยูโรในวันนี้ หลังจากที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามคาดในวันนี้
ณ เวลา 19.05 น.ตามเวลาไทย ปอนด์แข็งค่า 0.3% สู่ระดับ 1.4182 ดอลลาร์ และปรับตัวขึ้น 0.40% สู่ระดับ 0.8687 เทียบยูโร
ทั้งนี้ BoE มีมติด้วยคะแนนเสียง 7-2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.50% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันนี้ ตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ในการประชุมเดือนก.พ. นายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการ BoE สร้างความตื่นตระหนกต่อตลาดการเงิน โดยระบุว่า BoE จำเป็นต้องคุมเข้มนโยบายการเงินเร็วกว่าที่คาดไว้ และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าคาด
คำกล่าวของนายคาร์นีย์ส่งผลให้นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนพ.ค. โดยขณะนี้คาดกันว่า BoE มีแนวโน้ม 70% ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนดังกล่าว