ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) หลังจากไอเอชเอส มาร์กิต ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซนชะลอตัวลงในเดือนมี.ค. ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งให้เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน วงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่ระดับ 1.2306 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2329 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.4109 ดอลลาร์ จากระดับ 1.4136 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7711 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7760 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 105.63 เยน จากระดับ 106.12 เยน แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9506 ฟรังก์ จากระดับ 0.9504 ฟรังก์
สกุลเงินยูโรได้รับแรงกดดันจากรายงานของไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งระบุว่า ดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นเดือนมี.ค.ของยูโรโซน อยู่ที่ 55.3 ลดลงจากตัวเลขเดือนก.พ.ที่ระดับ 57.1 และยังทำสถิติต่ำสุดในรอบ 14 เดือน
ส่วนดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนมี.ค.ลดลงสู่ระดับ 56.6 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดรอบ 8 เดือน จากระดับ 58.6 ในเดือนก.พ. และดัชนีดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้นเดือนมี.ค. อยู่ที่ 55.0 ลดลงจากระดับ 56.2 เมื่อเดือนก.พ. และทำสถิติต่ำสุดในรอบ 5 เดือน
ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีเมื่อวานนี้ เพื่อเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยระบุว่าเป็นการลงโทษจีนที่ได้ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทสหรัฐ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักลงทุนได้ซึมซับผลการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 1.50-1.75% ในการประชุมครั้งล่าสุด ขณะเดียวกัน เฟดยังคงส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ และคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้า และ 2 ครั้งในปี 2563
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ เอชเอส มาร์กิต เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนมี.ค. อยู่ที่ 55.7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 36 เดือน จากระดับ 55.3 ในเดือนก.พ. และดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น อยู่ที่ 54.1 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 55.9 ในเดือนก.พ. ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 3,000 ราย สู่ระดับ 229,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 225,000 ราย นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.พ. และยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ.