ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 เม.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมี.ค.ในวันพรุ่งนี้
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.2281 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2268 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.4074 ดอลลาร์ จากระดับ 1.4056 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7707 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7680 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 106.74 เยน จากระดับ 106.58 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9605 ฟรังก์ จากระดับ 0.9592 ฟรังก์
ดอลลาร์ได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากการทำสงครามระหว่างสหรัฐและจีน โดยเมื่อวานนี้กระทรวงการคลังจีนได้เปิดเผยรายการสินค้าของสหรัฐที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสินค้า 106 รายการใน 14 หมวดสินค้า รวมถึงถั่วเหลือง รถยนต์ เครื่องบิน อาวุธยุทโธปกรณ์ และเคมีภัณฑ์ โดยรัฐบาลจีนจะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐในอัตรา 25% ซึ่งเป็นอัตราเดียวกับที่สหรัฐเรียกเก็บจากจีน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของจีนมีขึ้นหลังจากสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ได้เปิดเผยรายการสินค้าของจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 25% จำนวน 1,300 รายการ คิดเป็นวงเงินรวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายที่จะบีบให้จีนผ่อนปรนกฎระเบียบด้านการค้าและการลงทุน
อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน โดยได้แรงหนุนจากรายงานของออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ ซึ่งระบุว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 241,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 205,000 ตำแหน่ง หลังจากทะยานขึ้น 246,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ.
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.2% ในเดือนก.พ. หลังจากร่วงลง 1.3% ในเดือนม.ค. ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยผลสำรวจซึ่งระบุว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 58.8 ในเดือนมี.ค. โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 59.0 หลังจากแตะระดับ 59.5 ในเดือนก.พ.
นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมี.ค.ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ โดยนักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดการณ์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 4.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2543 หรือต่ำสุดในรอบกว่า 17 ปี จากระดับ 4.1% ในเดือนก.พ.