สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 เม.ย.) หลังจากนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า การร่วงลงของตลาดหุ้นในช่วงต้นปีนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อภาวะการเงินในยูโรโซน ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์ยังคงได้รับแรงกดดันข้อพิพาทด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2322 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2285 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.4132 ดอลลาร์ จากระดับ 1.4085 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7703 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7670 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 106.77 เยน จากระดับ 106.87 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9563 ฟรังก์ จากระดับ 0.9587 ฟรังก์
ยูโรแข็งค่าขึ้นหลังจากนายดรากีได้กล่าวแสดงความเห็นเมื่อวานนี้ว่า การร่วงลงของตลาดหุ้นในช่วงต้นปีนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อภาวะการเงินในยูโรโซน โดยการแสดงความเห็นดังกล่าวบ่งชี้ว่า คณะกรรมการบริหารของ ECB ยังไม่มีท่าทีวิตกกังวลเกี่ยวกับความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นเมื่อเร็วๆนี้
ส่วนสกุลเงินดอลลาร์ยังคงได้รับแรงกดดันเกี่ยวกับข้อพิพาทด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยแม้ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุผ่านทวิตเตอร์เมื่อวันอาทิตย์ว่า จีนและสหรัฐจะบรรลุข้อตกลงกันได้ในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงในด้านภาษีที่จะเป็นไปในลักษณะที่เอื้อประโยชน์ต่อกัน แต่ทางด้านจีนยืนยันเมื่อวานนี้ว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะมีการเจรจาแก้ไขข้อพิพาททางการค้า ท่ามกลางสถานการณ์ที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้
นักลงทุนจับตารายงานการประชุมประจำวันที่ 20-21 มี.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธนี้ และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมี.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพุธนี้เช่นกัน โดยข้อมูลดังกล่าวจะเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปของเฟด หลังจากที่ประชุมเฟดมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% ในการประชุมเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่นักลงทุนให้ความสนใจในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมี.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.พ., ราคานำเข้าและส่งออกเดือนมี.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนเม.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน