ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 เม.ย.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.57 เยน จากระดับ 107.40 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9746 ฟรังก์ จากระดับ 0.9721 ฟรังก์
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2286 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2338 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะระดับ 1.4031 ดอลลาร์ จากระดับ 1.4078 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสตเรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7671 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7723 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีที่ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 2.92% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีทะยานขึ้นเหนือระดับ 3.10% เมื่อคืนนี้ หลังจากรายงานของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียระบุว่า ดัชนีการผลิตพุ่งขึ้นสู่ระดับ 23.2 ในเดือนเม.ย. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 20.5 ซึ่งบ่งชี้ถึงการดีดตัวของราคา และอัตราเงินเฟ้อ โดยนักลงทุนคาดการณ์ว่า ปัจจัยดังกล่าวอาจผลักดันให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้
นางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟดกล่าวเมื่อวานนี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐดูเหมือนมีความสามารถในการรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในอนาคตอันใกล้
ทางด้านเฟดสาขานิวยอร์กได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 2 หลังการเปิดเผยดัชนีการผลิตประจำเดือนเม.ย. โดยระบุว่า แบบจำลองการคาดการณ์ Nowcast แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัว 3.03% ในไตรมาส 2 โดยสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 2.87% ที่ระบุไว้เมื่อสัปดาห์ก่อน
นอกจากนี้ เฟดคาดการณ์ว่าเศรษฐิจสหรัฐจะขยายตัว 2.91% ในไตรมาส 1 โดยสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 2.79%