ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐซึ่งระบุว่า อัตราว่างงานเดือนเม.ย.ของสหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2543 ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงอยู่ในทิศทางที่แข็งแกร่ง และอาจเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีนี้
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1924 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1960 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3560 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3542 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.7518 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7537 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 109.08 เยน จากระดับ 109.12 เยน แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 1.0028 ฟรังก์ จากระดับ 1.0007 ฟรังก์
ดอลลาร์ยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานที่ว่า อัตราการว่างงานเดือนเม.ย.ของสหรัฐลดลงสู่ระดับ 3.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2543 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 4.0%
นักวิเคราะห์กล่าวว่า อัตราว่างงานที่ลดลงอย่างมากนั้น สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง และอาจเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีนี้
อย่างไรก็ตาม รายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนเม.ย. โดยเพิ่มขึ้นเพียง 164,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 192,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เพิ่มขึ้น 135,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค.
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ ผลการสำรวจของสมาคมการจำนองแห่งชาติของรัฐบาลกลางสหรัฐ (แฟนนี เม) ระบุว่า ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นต่อตลาดที่อยู่อาศัยสูงเป็นประวัติการณ์ในเดือนเม.ย. แม้ว่าเผชิญกับสต็อกบ้านในตลาดที่อยู่ในระดับต่ำ, ราคาบ้านที่พุ่งสูง และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยที่ดีดตัวขึ้น
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นในการซื้อบ้าน (Home Purchase Sentiment Index) หรือ HPSI ของแฟนนี เม ดีดตัวขึ้น 3.4 จุด สู่ระดับ 91.7 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบรายเดือน และปรับตัวขึ้น 5.0 จุด เมื่อเทียบรายปี
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย., สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมี.ค., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ราคานำเข้าและส่งออกเดือนเม.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน