ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 พ.ค.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส ซึ่งรวมถึงตัวเลขการเปิดรับสมัครงานในสหรัฐ ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ปรับตัวขึ้นในเดือนมี.ค. โดยข้อมูลดังกล่าวช่วยหนุนสกุลเงินดอลลาร์ แม้ตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน จากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศนำสหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านก็ตาม
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1860 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1924 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะระดับ 1.3538 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3560 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.7449 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7518 ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.98 เยน จากระดับ 109.08 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0018 ฟรังก์ จากระดับ 1.0028 ฟรังก์
ดอลลาร์ได้รับปัจจัยหนุนหลังจากสำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของพนักงาน (JOLTS) รายเดือน พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน อยู่ที่ระดับ 6.6 ล้านตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 6.1 ล้านตำแหน่ง
ทางด้านสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมในสหรัฐ ขยับขึ้น 0.1 จุด สู่ระดับ 104.8 ในเดือนเม.ย. โดย NFIB ระบุว่า เจ้าของธุรกิจขนาดย่อมหันมามุ่งความสนใจไปที่การสร้างงานใหม่ ค่าแรงและผลประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการลงทุน ข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐได้ช่วยหนุนดอลลาร์ แม้ในระหว่างวันตลาดได้รับแรงกดดันในระดับหนึ่ง จากการที่ปธน.ทรัมป์ได้ตัดสินใจนำสหรัฐถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งเป็นข้อตกลงที่ลงนามในปี 2558 ระหว่างอิหร่าน และกลุ่มประเทศ P5+1 ได้แก่ จีน รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส สหรัฐ และเยอรมนี พร้อมประกาศว่าจะใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่รุนแรงต่ออิหร่านอีกครั้ง เนื่องจากข้อตกลงดังกล่าวไม่สามารถทำให้อิหร่านยุติการพัฒนาอาวุธนิเคลียร์หรือการสนับสนุนผู้ก่อการร้ายในภูมิภาคได้ สำหรับความเคลื่อนไหวที่มีผลต่อภาวะการซื้อขายเมื่อคืนนี้ นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้กล่าวในการประชุมที่สวิตเซอร์แลนด์เมื่อวานนี้ว่า การที่เฟดและธนาคารกลางของชาติพัฒนาแล้วรายอื่นๆ เริ่มมีการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นนั้น ไม่น่าจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจกลุ่มตลาดเกิดใหม่ เนื่องจากตลาดเกิดใหม่น่าจะควบคุมดูแลและรับมือได้
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย., สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมี.ค., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ราคานำเข้าและส่งออกเดือนเม.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน