ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) หลังจากสหรัฐและจีนได้ตกลงที่จะระงับการทำสงครามการค้าเป็นการชั่วคราว โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนซึ่งเป็นสองชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.10 เยน จากระดับ 110.67 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9978 ฟรังก์ จากระดับ 0.9977 ฟรังก์
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.1772 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1775 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะระดับ 1.3414 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3482 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7569 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7511 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์ได้รับปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้ให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า สหรัฐและจีนได้ตกลงที่จะระงับการทำสงครามการค้าชั่วคราว ขณะเดียวกันทั้งสองฝ่ายยังได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการกำหนดกรอบการดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาดุลการค้าในอนาคต
ทั้งนี้ การเปิดเผยของนายมนูชินมีขึ้นหลังจากที่จีนและสหรัฐได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันเกี่ยวกับผลการเจรจาหารือด้านเศรษฐกิจและการค้าเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยทั้งสองฝ่ายให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่ทำสงครามการค้าระหว่างกัน และยังได้ตกลงที่จะใช้มาตรการต่างๆ เพื่อลดยอดขาดดุลการค้าที่สหรัฐมีต่อจีน นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายจะยังคงเจรจากันเกี่ยวกับการที่จีนจะนำเข้าพลังงานและสินค้าเกษตรจากสหรัฐมากขึ้น เพื่อลดการเกินดุลการค้าสินค้าและบริการต่อสหรัฐมากถึง 3.35 แสนล้านดอลลาร์ในแต่ละปี
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประจำวันที่ 1-2 พ.ค. ในวันพุธนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในปีนี้
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่นักลงทุนให้ความสนใจในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนพ.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนพ.ค.จากมาร์กิต, ยอดขายบ้านใหม่เดือนเม.ย., สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาบ้านเดือนมี.ค., ยอดขายบ้านมือสองเดือนเม.ย., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นสุดท้ายเดือนพ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน