ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 110 เยน ขณะที่ดัชนีดอลลาร์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือน หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป
ขณะเดียวกัน ยูโรดิ่งลงเทียบดอลลาร์และเยน จากการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยยาวไปจนถึงกลางปีหน้า
ณ เวลา 17.30 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.02% สู่ระดับ 110.37 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.38% สู่ระดับ 127.18 เยน และร่วงลง 0.42% สู่ระดับ 1.1521 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.42% สู่ระดับ 95.45 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือนก.ค.ปีที่แล้ว
นายพาวเวลกล่าวว่า การขยายตัวที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ, อัตราว่างงานที่ระดับต่ำ และเงินเฟ้อที่เข้าใกล้เป้าหมายของเฟด เป็นปัจจัยหนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป
นายพาวเวลระบุว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจได้ลดความจำเป็นในการใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายซึ่งมีการใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์
นายพาวเวลกล่าวว่า ถึงแม้ยังคงมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการเงิน แต่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปถือเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และได้รับการสนับสนุนจากกรรมการเฟดส่วนใหญ่
คำกล่าวของนายพาวเวลมีขึ้น หลังจากที่เฟดมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 1.75-2.00% ในการประชุมเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้
การปรับอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว นับเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ หลังจากปรับขึ้นครั้งแรกในเดือนมี.ค. และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 7 นับตั้งแต่เฟดเริ่มวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.2558
นอกจากนี้ เฟดยังได้ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยคาดว่าจะปรับขึ้นในเดือนก.ย. และธ.ค. ซึ่งจะส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 4 ครั้งในปีนี้
ส่วนในปีหน้า เฟดยังคงส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง
ทางด้าน ECB จัดการประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์ที่แล้ว โดยที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.40% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%
ECB ระบุว่าจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อไป อย่างน้อยจนถึงช่วงฤดูร้อนของปีหน้า
ขณะเดียวกัน ECB ประกาศคงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ที่ระดับ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือน จนถึงเดือนก.ย.
อย่างไรก็ดี ECB จะเริ่มปรับลดวงเงิน QE สู่ระดับ 1.5 หมื่นล้านยูโรในเดือนต.ค.-ธ.ค. และจะยุติมาตรการ QE ภายในสิ้นเดือนธ.ค.