ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นในกรอบ 110 เยนในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของยูโร/เยน แต่ช่วงบวกของดอลลาร์ถูกจำกัด ก่อนที่สหรัฐและจีนจะเปิดฉากสงครามภาษีในวันพรุ่งนี้
ณ เวลา 00.21 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.20% สู่ระดับ 110.67 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.47% สู่ระดับ 129.36 เยน และดีดตัวขึ้น 0.30% สู่ระดับ 1.1689 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.29% สู่ระดับ 94.40
ดอลลาร์ได้แรงซื้อจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อยูโร/เยน หลังการเปิดเผยตัวเลขภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของเยอรมนี
ในวันพรุ่งนี้ สหรัฐจะเรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนจำนวนมากกว่า 800 รายการ คิดเป็นมูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนก็เตรียมเก็บภาษี 25% ต่อสินค้าสหรัฐในวงเงินเดียวกันในวันพรุ่งนี้เช่นกัน
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์จีนแถลงในวันนี้ว่า สหรัฐกำลังทำร้ายตัวเอง รวมทั้งทำร้ายโลก ด้วยการเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม
"ถ้าสหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม ก็จะเป็นการเก็บภาษีต่อบริษัทในจีน และบริษัทที่อยู่ทั่วโลก รวมทั้งต่อบริษัทของสหรัฐเอง" นายเกา เฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน กล่าว
นายเกาชี้ว่า จีนเป็นผู้สนับสนุนที่สำคัญ และผู้เข้าร่วมกระแสโลกาภิวัฒน์ และเครือข่ายอุตสาหกรรมระดับโลก ซึ่งการส่งออกสินค้าจำนวนมากของจีนเป็นผลิตภัณฑ์ที่บริษัทต่างชาติทำขึ้นในจีน และในจำนวนนี้ บริษัทสหรัฐมีจำนวนมากที่สุด
"พูดง่ายๆก็คือ หากสหรัฐยิงปืนเข้าใส่โลก ก็เหมือนยิงปืนใส่ตัวเอง" เขากล่าว
ขณะเดียวกัน นายริชาร์ด เกรเนลล์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำเยอรมนี กล่าวต่อผู้บริหารของบริษัทรถยนต์ยุโรปว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์พร้อมที่จะยกเลิกการเรียกเก็บภาษี 20% ต่อรถยนต์ที่นำเข้าจากยุโรป ถ้าหากยุโรปปรับลดภาษีต่อรถยนต์สหรัฐเช่นเดียวกัน
หนังสือพิมพ์ Handelsblatt ของเยอรมนีรายงานว่า นายเกรเนลล์ได้กล่าวต่อผู้บริหารของบริษัทเดมเลอร์, โฟล์คสวาเกน และบีเอ็มดับเบิลยูเมื่อวานนี้
ทางด้าน VDA ซึ่งเป็นสมาคมผู้ค้ารถยนต์เยอรมนี ระบุว่า ข้อเสนอที่ให้ทั้งสองฝ่ายยกเลิกการเก็บภาษี และกำแพงการค้าระหว่างกัน ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ดี
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมิ.ย.ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในปีนี้