ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนเทียบยูโร นักลงทุนคาดเฟดไม่เร่งขึ้นดบ. เหตุค่าจ้างชะลอตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday July 7, 2018 07:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและฟรังก์สวิส ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 ก.ค.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขค่าจ้างต่อชั่วโมงซึ่งเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มองว่าเป็นสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อนั้น ชะลอตัวลงในเดือนมิ.ย. ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดว่าเฟดจะไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9900 ฟรังก์ จากระดับ 0.9924 ฟรังก์ แต่แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.68 เยน จากระดับ 110.48 เยน

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1680 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1666 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3215 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3236 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7429 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7402 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์อ่อนแรงลงหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ซึ่งเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อนั้น เพิ่มขึ้น 5 เซนต์/ชั่วโมง หรือ 0.2% จากระดับ 0.3% ในเดือนพ.ค. และเพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ระดับ 2.8% จากระดับ 2.7% ในเดือนพ.ค. โดยการชะลอตัวของค่าจ้างในเดือนมิ.ย.ทำให้ตลาดคาดว่าเฟดจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ส่วนตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย.ของสหรัฐพุ่งขึ้น 213,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 195,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.0% โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 3.8%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลง 6.6% สู่ระดับ 4.31 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2559 โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าลดลงสู่ระดับ 4.37 หมื่นล้านดอลลาร์ และลดลงจากระดับ 4.61 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย.

อย่างไรก็ดี สหรัฐขาดดุลการค้าต่อจีนพุ่งขึ้น 18.7% สู่ระดับ 3.32 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. และขาดดุลการค้าต่อเม็กซิโกทะยานขึ้น 18.8%

นักลงทุนจับตาข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอย่างใกล้ชิด หลังจากเมื่อวานนี้ สหรัฐได้เรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนจำนวนมากกว่า 800 รายการ คิดเป็นมูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนก็ได้ตอบโต้ด้วยการเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐในวงเงินที่เท่ากัน

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังได้ขู่ที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในวงเงินมากกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเกือบเท่ากับมูลค่าสินค้าที่สหรัฐนำเข้าจากจีนทั้งหมดในปีที่แล้ว หากจีนยังคงตอบโต้สหรัฐ และไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้องของสหรัฐ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ