สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะกรอบล่าง 112 เยน ถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน ในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ที่ตลาดโตเกียวหลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อมูลที่บ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อนั้น พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนมิ.ย. ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามแผนในปีนี้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ณ เที่ยงวันนี้ตามเวลาโตเกียว ดอลลาร์เคลื่อนไหวที่ 112.26-112.27 เยน เมื่อเทียบกับ 111.95-112.05 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 111.00-111.02 เยนที่ตลาดโตเกียว เมื่อเวลา 17.00 น. ของวานนี้
ยูโรเคลื่อนไหวที่ 1.1673-1.1673 ดอลลาร์ และ 131.04-131.05 เยน เมื่อเทียบกับ 1.1667-1.1677 ดอลลาร์ และ 130.71-130.81 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และเทียบกับ 1.1733-1.1734 ดอลลาร์ และ 130.24-130.28 เยน เมื่อช่วงเย็นวานนี้ที่ตลาดโตเกียว
สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ดีดตัวขึ้น 0.3% ในเดือนมิ.ย.เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% และหากเทียบเป็นรายปี ดัชนี PPI พุ่งขึ้น 3.4% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2554 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.2% โดยการปรับตัวขึ้นของดัชนี PPI ได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน และค่าใช้จ่ายในภาคบริการ
การพุ่งขึ้นของดัชนี PPI ทำให้นักลงทุนเชื่อว่า เฟดจะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามแผนในปีนี้ โดยในการประชุมเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมานั้น เฟดมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 1.75-2.00% พร้อมกับส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยคาดว่าจะปรับขึ้นในเดือนก.ย. และธ.ค.