ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลลาร์อ่อนค่า หลังบอนด์ยีลด์ร่วง,ความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำสุดรอบ 6 เดือน

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday July 14, 2018 08:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ก.ค.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลง ภายหลังผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน โดยดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากที่แข็งค่าขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ ท่ามกลางความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 112.30 เยน จากระดับ 112.51 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0021 ฟรังก์ จากระดับ 1.0027 ฟรังก์ และอ่อนลงแตะ 1.3162 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.3172 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1678 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1667 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3228 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3208 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7414 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7403 ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.08% สู่ระดับ 94.749

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 2.834% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 2.939%

ทั้งนี้ ก่อนที่ตลาดการเงินในสหรัฐจะเปิดทำการ ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องจากวันพฤหัสบดี และแตะระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ เนื่องจากความกังวลที่ว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจจะทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังจากที่สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) เปิดเผยว่าจีนมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐในเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 2.897 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่มีการรวบรวมข้อมูลในปี 2542 ขณะที่ยอดส่งออกสินค้าจากจีนไปยังสหรัฐในเดือนมิ.ย.อยู่ที่ระดับ 4.262 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน

อย่างไรก็ดี ดอลลาร์สหรัฐไม่สามารถรักษาแรงบวกเอาไว้ได้ หลังจากผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวลงและข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่น่าผิดหวังได้กดดันค่าเงินดอลลาร์

ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 97.1 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 98.2

ผลการสำรวจพบว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า

ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคานำเข้าปรับตัวลง 0.4% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2559 หลังจากเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนพ.ค.

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังเปิดเผยว่า ดัชนีราคาส่งออกเพิ่มขึ้น 5.3% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5.7%

ด้านเงินปอนด์อ่อนค่าลงอย่างมาก หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เดอะ ซัน ของอังกฤษ กรอบบ่ายวันพฤหัสบดีว่า แผนซอฟต์ เบร็กซิต (Soft Brexit) ของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ อาจทำลายข้อตกลงการค้าระหว่างอังกฤษและสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์กลับลำในวันถัดมา เมื่อเขากล่าวในการแถลงข่าวร่วมกับนางเมย์ในวันศุกร์ว่า เขายังคงสนับสนุนการทำข้อตกลงการค้ากับสหราชอาณาจักรภายหลังเบร็กซิต ส่งผลให้เงินปอนด์กลับมาแข็งค่าขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ