ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่าเทียบสกุลเงินหลัก เหตุนักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไรหลังดอลล์ร่วงหนัก

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 24, 2018 07:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากดอลลาร์ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ อันเนื่องมาจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้แสดงความเห็นคัดค้านนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9931 ฟรังก์ จากระดับ 0.9926 ฟรังก์ แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.49 เยน จากระดับ 111.55 เยน

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.1691 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1725 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3101 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3135 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.7378 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7425 ดอลลาร์สหรัฐ

นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากดอลลาร์ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สืบเนื่องมาจากการที่ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความกล่าวหาว่า จีนและสหภาพยุโรปกำลังปั่นค่าเงินเพื่อสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังได้วิพากษ์วิจารณ์นโยบายการเงินของเฟด โดยระบุว่า "สหรัฐไม่ควรถูกทำโทษเพราะเศรษฐกิจกำลังไปได้ดี การขึ้นดอกเบี้ยในขณะนี้จะส่งผลกระทบต่อสิ่งที่เราได้ทำ สหรัฐควรได้รับโอกาสในการรับสิ่งที่สูญเสียไปจากการที่ประเทศอื่นปั่นค่าเงิน และทำข้อตกลงที่เอาเปรียบสหรัฐ"

อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน เนื่องจากรายงานข่าวเกี่ยวกับการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจเปลี่ยนแปลงจากการใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายอย่างมาก ไปสู่การชี้นำให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวไปแตะระดับ 0% โดย BOJ จะจัดการประชุมเป็นเวลา 2 วันในวันที่ 30-31 ก.ค.

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองร่วงลง 0.6% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 5.38 ล้านยูนิต โดยเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 3 ขณะที่ถูกกระทบจากภาวะขาดแคลนบ้านในตลาด ซึ่งส่งผลให้ราคาพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ทางด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก เปิดเผยว่า ดัชนี Chicago Fed National Activity Index (CFNAI) ดีดตัวสู่ระดับ +0.43 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ -0.45 ในเดือนพ.ค. ซึ่งบ่งชี้ถึงการดีดตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในเดือนมิ.ย. โดยเฟดสาขาชิคาโกระบุว่า ดัชนี CFNAI ที่มีค่าเป็นบวกในเดือนมิ.ย. มีสาเหตุจากการปรับตัวขึ้นของตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องกับภาคการผลิต รวมทั้งตัวชี้วัดเกี่ยวกับยอดขาย, คำสั่งซื้อ และปริมาณสินค้าคงคลัง

ทั้งนี้ ดัชนี CFNAI เป็นดัชนีถ่วงน้ำหนักตัวชี้วัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐ 85 รายการ โดยดัชนี CFNAI ที่มีค่าเป็นบวกจะบ่งชี้ถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจที่สูงกว่าแนวโน้ม ขณะที่ดัชนี CFNAI ที่มีค่าเป็นลบจะบ่งชี้ถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าแนวโน้ม

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนก.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนก.ค.จากมาร์กิต, ยอดขายบ้านใหม่เดือนมิ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2561 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ