ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 ก.ค.) หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.83 เยน จากระดับ 111.22 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9924 ฟรังก์ จากระดับ 0.9941 ฟรังก์
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1699 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1683 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3172 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3138 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7437 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7415 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ร่วงลง 5.3% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 631,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน หลังจากที่พุ่งขึ้น 6.7% แตะระดับ 666,000 ยูนิตในเดือนพ.ค.
ด้านนักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนมิ.ย.จะทรงตัวที่ระดับ 666,000 ยูนิต
นอกจากนี้ ราคาเฉลี่ยของบ้านใหม่ยังลดลง 4.2% สู่ระดับ 302,100 ดอลลาร์ในเดือนมิ.ย.เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
สำหรับความเคลื่อนไหวด้านการค้าที่นักลงทุนให้ความสนใจนั้น สหรัฐ และสหภาพยุโรป (EU) ได้ตกลงที่จะร่วมมือกันเพื่อเตรียมยุติการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอุตสาหกรรมที่ไม่รวมรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ รวมทั้งขจัดอุปสรรคทางการค้า และสนับสนุนการค้าสินค้าประเภทดังกล่าว ซึ่งนับเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการลดความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างทั้งสองฝ่าย
ทั้งนี้ การตกลงให้ความร่วมมือในเรื่องดังกล่าวมีขึ้นในการประชุมระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งจัดขึ้นที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้
ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า EU ได้ตกลงที่จะซื้อถั่วเหลือง และก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐ และ EU จะเป็นไปในลักษณะได้ประโยชน์ร่วมกัน ตามที่สหรัฐคาดหวังไว้
ทางด้านนายยุงเกอร์กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะระงับการเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม ตราบใดที่การเจรจาการค้ายังคงดำเนินไป โดยข้อตกลงดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะป้องกันไม่ให้เกิดข้อพิพาทเกี่ยวกับการค้าสินค้าในกลุ่มรถยนต์