ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (31 ก.ค.) ก่อนที่ตลาดจะทราบผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ขณะที่เงินเยนอ่อนค่าลงหลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำในการประชุมเมื่อวานนี้
ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.84 เยน จากระดับ 110.00 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9900 ฟรังก์ จากระดับ 0.9880 ฟรังก์
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1697 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1709 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3124 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3135 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7435 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7408 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นก่อนที่การประชุมนโยบายการเงินของเฟดจะเสร็จสิ้นลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยคาดว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ ในการประชุมเดือนก.ย.และธ.ค.
เงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนเพิ่มการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง หลังจากที่ประชุม BOJ ใช้มาตรการชี้นำล่วงหน้า (Forward guidance) ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่า BOJ จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำมากต่อไปอีกระยะหนึ่ง ท่ามกลางภาวะเงินฝืด
อย่างไรก็ดี ดอลลาร์เผชิญแรงขายเล็กน้อย หลังจากที่นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการ BOJ กล่าวว่า BOJ จะปล่อยให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลญี่ปุ่นเคลื่อนตัวในช่วง -0.2% จนถึง +0.2% จากเดิมที่อยู่ในช่วง -0.1% จนถึง +0.1%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงานและเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ค.
ขณะที่ผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวสู่ระดับ 127.4 ในเดือนก.ค. จากระดับ 127.1 ในเดือนมิ.ย. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 126.5 โดยดัชนีดังกล่าวเป็นการสำรวจมุมมองของผู้บริโภค และความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และในช่วง 6 เดือนข้างหน้า, สถานะการเงินส่วนบุคคล และการจ้างงาน
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ค.จาก ADP, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กเดือนก.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมิ.ย., ดุลการค้าเดือนมิ.ย., ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค. และดัชนีภาคบริการเดือนก.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)