ปอนด์อ่อนค่าลงในวันนี้ จากความไม่มั่นใจของนักลงทุนเกี่ยวกับการเจรจาระหว่างสหภาพยุโรป (EU) และอังกฤษในประเด็นการถอนตัวของอังกฤษออกจาก EU (Brexit) หลังมีรายงานว่า นายมิเชล บาร์นิเยร์ ตัวแทนเจรจาฝ่าย EU ในประเด็น Brexit กล่าวว่า ยุโรปจะต้องเตรียมตัวรับมือกรณีที่อังกฤษแยกตัวออกจาก EU โดยไม่มีการทำข้อตกลง
ณ เวลา 18.28 น.ตามเวลาไทย ปอนด์อ่อนค่าลง 0.11% สู่ระดับ 1.3010 ดอลลาร์
นายบาร์นิเยร์กล่าวว่า EU จำเป็นจะต้องรับมือกับทุกสถานการณ์ ซึ่งรวมถึงกรณีที่ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลง
นายบาร์นิเยร์ยังระบุว่า ประเด็นชายแดนไอร์แลนด์กับไอร์แลนด์เหนือถือเป็นประเด็นที่มีความเปราะบางมากที่สุด
นายบาร์นิเยร์ระบุดังกล่าว หลังจากที่กล่าวก่อนหน้านี้ว่า EU เตรียมเสนอให้อังกฤษได้รับสถานะการเป็นหุ้นส่วนที่ไม่เคยมีมาก่อน หลังจากแยกตัวออกจาก EU แต่ EU จะไม่อนุญาตให้มีการดำเนินการใดๆที่จะทำให้ระบบตลาดเดี่ยวของ EU อ่อนแอลง
ทางด้านสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เจ้าหน้าที่อังกฤษและ EU ได้เลื่อนกำหนดเส้นตายในการเจรจา Brexit ออกไปเป็นกลางเดือนพ.ย. เนื่องจากยังคงไม่มีความคืบหน้าในการเจรจา
สำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุว่า ถึงแม้เจ้าหน้าที่อังกฤษ และ EU เปิดเผยต่อสาธารณชนว่า พวกเขาต้องการที่จะบรรลุข้อตกลง Brexit ภายในวันที่ 18 ต.ค. หรือภายในอีก 7 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นการประชุมสุดยอดผู้นำ EU แต่เบื้องหลังแล้ว พวกเขายอมรับว่าสิ่งนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้
แหล่งข่าวระบุว่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่อังกฤษ และ EU ตั้งเป้าหมายที่จะบรรลุข้อตกลง Brexit ภายในกลางเดือนพ.ย.เป็นอย่างช้าที่สุด
การเลื่อนเส้นตายดังกล่าวเป็นการแสดงให้เห็นว่าทั้งสองฝ่ายยังคงประสบปัญหาในการเจรจา และการกำหนดเส้นตายในเดือนพ.ย.ก็เป็นการส่งสัญญาณว่า EU อาจจัดการประชุมฉุกเฉินในเดือนดังกล่าวเพื่อพิจารณาเรื่องนี้
ทั้งนี้ ผู้นำ EU มีกำหนดหารือกรณี Brexit ในการประชุมสุดยอดที่เมืองซัลส์บูร์กในกลางเดือนก.ย. และอีกครั้งหนึ่งในเดือนต.ค.ที่กรุงบรัสเซลส์
การที่อังกฤษและ EU เลื่อนเส้นตายในการทำข้อตกลง Brexit ออกไปอีกนั้น สะท้อนให้เห็นว่า ตัวแทนการเจรจาของทั้งสองฝ่ายกำลังเผชิญกับความท้าทายในการบรรลุข้อตกลง โดยความเสี่ยงที่เห็นได้ชัดในขณะนี้ก็คือ ยิ่งใกล้วันที่อังกฤษจะแยกตัวออกจาก EU อย่างเป็นทางการในวันที่ 29 มี.ค.ปีหน้ามากเท่าใด โอกาสที่ทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลง ก็ยิ่งเป็นไปได้ยากมากขึ้นเท่านั้น
หลายฝ่ายกังวลว่า การถอนตัวจาก EU แบบไม่มีข้อตกลงจะส่งผลให้อังกฤษเผชิญผลกระทบในหลายด้าน ซึ่งรวมถึงการถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากยุโรป, ต้นทุนบัตรเครดิตที่ปรับตัวสูงขึ้น, งานเอกสารข้ามชายแดนมีความยุ่งยากมากขึ้น, การขาดแคลนยารักษาโรค, ภาวะไฟฟ้าดับ และอาจต้องหยุดให้บริการทางหลวงพิเศษในเมืองโดเวอร์ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ใช้ในการเดินทางไปยังฝรั่งเศส