ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (31 ส.ค.) ในขณะที่นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้ารายใหญ่
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.1604 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1664 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2961 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3012 ดอลลาร์ ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7184 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7256 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.01 เยน จากระดับ 111.04 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9693 ฟรังก์ จากระดับ 0.9694 ฟรังก์
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร, ปอนด์ และออสเตรเลีย หลังจากที่มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นแตะระดับ 96.2 ในเดือนส.ค. และสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าดัชนีจะปรับตัวลงสู่ระดับ 95.5
ผลการสำรวจพบว่า ผู้บริโภคมีมุมมองเชิงบวกต่อรายได้ในอนาคต และมองว่าตลาดแรงงานมีเสถียรภาพ
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเป็นการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภค 500 รายต่อภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งได้แก่ ฐานะการเงินส่วนบุคคล, ภาวะเงินเฟ้อ, การว่างงาน, อัตราดอกเบี้ย และนโยบายรัฐบาล
อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้ารายใหญ่ โดยตัวแทนเจรจาการค้าของแคนาดาได้ออกมายอมรับว่ายังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ฉบับใหม่กับสหรัฐเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นกำหนดเส้นตายที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุไว้ ขณะที่ทั้งสองฝ่ายยังคงมีความขัดแย้งกันในการเจรจา
นางคริสเทีย ฟรีแลนด์ รมว.ต่างประเทศแคนาดา ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะเจรจาการค้าของแคนาดา กล่าวต่อผู้สื่อข่าวเมื่อวานนี้ว่า แคนาดายังไม่สามารถบรรลุข้อตกลง NAFTA ฉบับใหม่กับสหรัฐ
นางฟรีแลนด์กล่าว หลังจากมีข่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า เขาจะไม่ประนีประนอมในการเจรจาการค้ากับแคนาดา
ด้านนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ยังคงปฏิเสธที่จะผ่อนปรนเงื่อนไขของสหรัฐ แม้ว่านางฟรีแลนด์ได้เสนอที่จะประนีประนอมในการรักษากลไกการแก้ไขข้อพิพาททางการค้าอย่างอิสระภายใต้ข้อตกลงฉบับใหม่