ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นในกรอบ 112 เยน โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นเอเชีย หลังจากอ่อนค่าลงในช่วงแรกจากการที่สหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์
ณ เวลา 21.26 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.43% สู่ระดับ 112.31 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.44% สู่ระดับ 131.25 เยน และขยับขึ้น 0.02% สู่ระดับ 1.1685 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.03% สู่ระดับ 94.53
นักลงทุนพากันเทขายดอลลาร์ และเข้าซื้อเยนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงแรก หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์เมื่อวานนี้ โดยเรียกเก็บภาษีเพิ่มอีก 10% ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.นี้ และจากนั้นจะเพิ่มเป็น 25% ตั้งแต่ช่วงต้นปีหน้า
แต่ดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นในเวลาต่อมา และดีดตัวเหนือระดับ 112 เยนในช่วงบ่าย ตามการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นจีนและญี่ปุ่น
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังแสดงความหวังว่าสหรัฐและจีนจะสามารถแก้ไขข้อพิพาททางการค้าได้ในที่สุด โดยเขายังคงมีความเคารพและชอบพอกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน
ทางด้านจีนประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ในวันนี้ ในอัตราภาษี 5-10% เพื่อตอบโต้ต่อการที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์เมื่อวานนี้
การประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 24 ก.ย. ซึ่งจีนจะพุ่งเป้าไปยังสินค้าสหรัฐจำนวน 5,207 รายการ