ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นในกรอบ 112 เยน ขณะที่นักลงทุนเพิ่มการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง ท่ามกลางการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นญี่ปุ่นและสหรัฐ
ส่วนปอนด์ทรุดหนักในวันนี้ โดยนักลงทุนกังวลว่าอังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) โดยไม่มีการทำข้อตกลง
ณ เวลา 22.17 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ขยับขึ้น 0.06% สู่ระดับ 112.55 เยน หลังจากดีดตัวแตะ 112.71 เยนในช่วงแรก ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.13% สู่ระดับ 132.28 เยน และร่วงลง 0.21% สู่ระดับ 1.1750 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.29% สู่ระดับ 94.18
ดอลลาร์แข็งค่าเทียบเยน หลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์สามารถดีดตัวแตะระดับสูงสุดเป้นประวัติการณ์ และดัชนีนิกเกอิพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
นักลงทุนจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 25-26 ก.ย. โดยคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ ก่อนที่จะปรับขึ้นอีกครั้งในเดือนธ.ค. หลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.และมิ.ย. ซึ่งจะส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 4 ครั้งในปีนี้ ส่วนในปีหน้า เฟดยังคงส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง
ปอนด์ทรุดหนักเทียบดอลลาร์และยูโรในวันนี้ หลังจากที่นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า EU และสหราชอาณาจักรกำลังประสบภาวะชะงักงันในการเจรจาเกี่ยวกับการแยกตัวของสหราชอาณาจักรออกจาก EU (Brexit)
ณ เวลา 20.57 น.ตามเวลาไทย ปอนด์ร่วงลง 1.46% สู่ระดับ 1.3071 ดอลลาร์ และดิ่งลง 1.18% สู่ระดับ 0.8979 เทียบยูโร
นางเมย์ย้ำว่าสหราชอาณาจักรพร้อมที่จะถอนตัวจากการเจรจา Brexit กับ EU โดยไม่มีการทำข้อตกลง และสหราชอาณาจักรจะไม่มีการทำประชามติครั้งใหม่เกี่ยวกับ Brexit
นางเมย์กล่าว หลังจากที่นายโดนัลด์ ทัสค์ ประธานคณะมนตรียุโรป ประกาศไม่ยอมรับข้อเสนอ Brexit ของนางเมย์เมื่อวานนี้ ซึ่งนางเมย์ต้องการให้สหราชอาณาจักรยังคงสามารถทำการค้าเสรีกับ EU ต่อไป แต่นายทัสค์ระบุว่า ข้อเสนอดังกล่าวมีความเสี่ยงที่จะบ่อนทำลายระบบตลาดเดี่ยวของ EU
นอกจากนี้ นายทัสค์ยังเตือนว่า การเจรจา Brexit กับสหราชอาณาจักรอาจล่มสลายลง หากนางเมย์ไม่ยอมผ่อนปรนเงื่อนไขเกี่ยวกับชายแดนของไอร์แลนด์