ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งเทียบสกุลเงินหลัก หลังเฟดมีมติขึ้นดอกเบี้ย,ส่งสัญญาณปรับขึ้นอีกเดือนธ.ค.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday September 27, 2018 06:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 ก.ย.) หลังจากที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ในปีนี้ และยังได้ส่งสัญญาณว่าจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีกในการประชุมเดือนธ.ค.

ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9650 ฟรังก์ จากระดับ 0.9649 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3002 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2950 ดอลลาร์แคนาดา แต่หากเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 112.83 เยน จากระดับ 112.93 เยน

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.1762 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1767 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ1.3184 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3186 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7276 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7249 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 2.00-2.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้

นอกจากนี้ เฟดได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปีนี้ สู่ระดับ 3.1% จากเดิมที่ 2.8% และปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ในปีหน้าสู่ระดับ 2.5% จากเดิมที่ 2.4% ส่วนการขยายตัวในปี 2563 ยังคงอยู่ที่ระดับ 2% ขณะที่คาดการณ์ว่าอัตราการขยายตัวในปี 2564 จะอยู่ที่ 1.8% เช่นเดียวกับอัตราการขยายตัวในระยะยาว

ส่วนการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนมิ.ย. โดยเฟดบ่งชี้ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งก่อนสิ้นปีนี้ และจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้า

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ยอดขายบ้านใหม่ดีดตัวขึ้น 3.5% ในเดือนส.ค. แตะระดับ 629,000 ยูนิต หลังจากที่ปรับตัวลงในช่วง 2 เดือนก่อนหน้านี้ ขณะที่ราคากลางของบ้านใหม่ในช่วงเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 1.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 320,000 ดอลลาร์

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนส.ค., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2561, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนส.ค., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนส.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ