สกุลเงินปอนด์และยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 ต.ค.) ขานรับความหวังที่ว่าอังกฤษจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับสหภาพยุโรป (EU) เกี่ยวกับการแยกตัวออกจาก EU (Brexit) ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐในวันนี้ เพื่อบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1525 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1497 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3199 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3146 ดอลลาร์ ขณะที่ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7084 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7100 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 112.57 เยน จากระดับ 113.04 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9920 ฟรังก์ จากระดับ 0.9921 ฟรังก์ แต่แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3033 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2944 ดอลลาร์แคนาดา
เงินปอนด์และยูโรยังคงได้รับแรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า สหราชอาณาจักร และ EU อาจบรรลุข้อตกลง Brexit ภายในวันจันทร์หน้า โดยนายมิเชล บาร์นิเยร์ ตัวแทนเจรจาฝ่าย EU ในประเด็น Brexit กล่าวว่า มีความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลง Brexit กับอังกฤษ โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวกับชายแดนของประเทศไอร์แลนด์
นอกจากนี้ นายบาร์นิเยร์ยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้อังกฤษและ EU สามารถเห็นพ้องกันในเนื้อหาราว 80-85% ในข้อตกลง Brexit
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย.เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของค่าใช้จ่ายในภาคบริการ แม้ว่าราคาอาหารปรับตัวลง
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI เพิ่มขึ้น 2.6% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 2.8%
ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหาร, พลังงาน และภาคบริการ เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. หลังจากขยับขึ้น 0.1% ในเดือนส.ค.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 2.9% ในเดือนก.ย. เช่นเดียวกับในเดือนส.ค.
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ย.ของสหรัฐในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI เดือนก.ย.จะเพิ่มขึ้น 0.2% โดยหากตัวเลข CPI ดีดตัวขึ้นมากกว่าระดับ 0.2% ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ก็จะเป็นปัจจัยหนุนการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ราคานำเข้าและส่งออกเดือนก.ย., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนต.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน