ดอลลาร์ร่วงลงต่ำกว่า 112 เยน แตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนพากันเทขายสินทรัพย์เสี่ยง ท่ามกลางการทรุดตัวของตลาดหุ้นทั่วโลก
อย่างไรก็ดี ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อของกลุ่มผู้นำเข้าของญี่ปุ่น
ยูโรพุ่งขึ้นเทียบดอลลาร์และเยนในวันนี้ ขานรับความหวังที่ว่าอังกฤษจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับสหภาพยุโรป (EU) เกี่ยวกับการแยกตัวออกจาก EU (Brexit)
นายมิเชล บาร์นิเยร์ ตัวแทนเจรจาฝ่าย EU ในประเด็น Brexit กล่าวว่า มีความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลง Brexit กับอังกฤษ โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวกับชายแดนของประเทศไอร์แลนด์
นายบาร์นิเยร์ระบุว่า ขณะนี้อังกฤษและ EU สามารถเห็นพ้องกันในเนื้อหาราว 80-85% ในข้อตกลง Brexit
ณ เวลา 19.04 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์อ่อนค่า 0.01% สู่ระดับ 112.26 เยน หลังจากร่วงลงต่ำกว่า 112 เยนในช่วงแรก ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.49% สู่ระดับ 129.95 เยน และดีดตัวขึ้น 0.48% สู่ระดับ 1.1574 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.39% สู่ระดับ 95.13
ตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งลง ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลง 831.83 จุด หรือ 3.15% ปิดที่ 25,598.74 จุดเมื่อคืนนี้ จากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้น หลังการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 8 เดือน
นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เตือนถึงผลกระทบของสงครามการค้าและสงครามค่าเงิน โดยกล่าวว่า ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นอาจฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจโลก และจะส่งผลทำให้ประเทศที่ไม่เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบเช่นกัน
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐ (CPI) เดือนก.ย.ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI เดือนก.ย.จะเพิ่มขึ้น 0.2% โดยหากตัวเลข CPI ดีดตัวขึ้นมากกว่าระดับ 0.2% ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ก็จะเป็นการยืนยันการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อตามข้อมูลของดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่มีการเปิดเผยวานนี้ และตอกย้ำคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย