ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 ต.ค.) โดยนักลงทุนได้หันมาซื้อเงินดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยง หลังดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดในแดนบวกเมื่อคืนนี้
ยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1563 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1594 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3162 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3232 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7106 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7103 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 112.00 เยน จากระดับ 111.93 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9907 ฟรังก์ จากระดับ 0.9891 ฟรังก์ แต่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3047 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3050 ดอลลาร์แคนาดา
ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.21% แตะ 95.23
ดอลลาร์สหรัฐได้รับปัจจัยหนุนหลังดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ โดยนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี การเปิดเผยผลประกอบการที่สดใสของธนาคารสหรัฐ รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน อาจเจรจากันนอกรอบการประชุม G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ซึ่งอาจช่วยยุติการทำสงครามการค้าระหว่างทั้งสองประเทศ
นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า การพบปะกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงนอกรอบการประชุม G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา อาจเกิดขึ้นได้ หากรัฐบาลสหรัฐเชื่อว่าการพบปะกันของผู้นำทั้งสองจะก่อให้เกิดประโยชน์
"มาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าถือเป็นเครื่องมือเจรจาต่อรองที่สำคัญ ซึ่งถ้าการพบปะกันจะส่งผลบวกต่อทิศทางการเจรจาการค้า ผมก็เชื่อว่าท่านประธานาธิบดีจะสนับสนุนให้มีการจัดประชุมดังกล่าว" นายมนูชินกล่าว
คำกล่าวของนายมนูชินสอดคล้องกับที่นายแลร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ทำเนียบขาวกำลังดำเนินการเพื่อให้มีการพบปะกันระหว่างปธน.ทรัมป์และปธน.สี จิ้นผิงนอกรอบการประชุม G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ซึ่งจะจัดการประชุมในวันที่ 30 พ.ย.-1 ธ.ค.
การเจรจาดังกล่าวจะมีขึ้น ท่ามกลางการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยสหรัฐขู่เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2.67 แสนล้านดอลลาร์ นอกเหนือจากที่เรียกเก็บภาษีสินค้าวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์ และ 2 แสนล้านดอลลาร์ก่อนหน้านี้
หากสหรัฐเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มอีกในวงเงิน 2.67 แสนล้านดอลลาร์ ก็เท่ากับว่าสหรัฐได้เรียกเก็บภาษีต่อสินค้าทั้งหมดที่จีนส่งเข้าไปยังสหรัฐ โดยข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า สหรัฐได้นำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 5.05 แสนล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว