ดอลลาร์ดีดตัวทะลุระดับ 112 เยนในวันนี้ จากคำสั่งซื้อสินทรัพย์เสี่ยงของนักลงทุน โดยได้แรงหนุนจากการทะยานขึ้นของตลาดหุ้นญี่ปุ่น ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการอ่อนตัวของตลาดหุ้นทั่วโลก
ณ เวลา 20.22 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.30% สู่ระดับ 112.09 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.62% สู่ระดับ 130.18 เยน และดีดตัวขึ้น 0.31% สู่ระดับ 1.1614 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.28% สู่ระดับ 94.79
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้น 277.94 จุด หรือ 1.25% ในวันนี้ จากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้น หลังจากดัชนีนิกเกอิร่วงลงกว่า 400 จุดเมื่อวานนี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มส่งออกได้แรงหนุนจากเงินเยนที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้ปัจจัยบวก จากการที่นักลงทุนคลายวิตกเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและซาอุดิอาระเบีย กรณีนายจามาล คาช็อกกี ผู้สื่อข่าวชาวซาอุดิอาระเบีย ที่ได้หายตัวไปอย่างลึกลับหลังเข้าไปติดต่อธุระที่สถานกงสุลซาอุดิอาระเบียในนครอิสตันบูล
นายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ ได้เดินทางถึงกรุงริยาด ประเทศซาอุดิอาระเบียแล้วในวันนี้ เพื่อหารือกับสมเด็จพระราชาธิบดี ซัลมาน บิน อับดุลลาซิซ อัล ซาอุด แห่งซาอุดิอาระเบีย กรณีการหายตัวของนายคาช็อกกี
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ทางการซาอุดีอาระเบียจะออกแถลงการณ์ยอมรับว่า นายคาช็อกกีได้เสียชีวิตจากการดำเนินการโดยผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ขณะที่มีการสอบสวนนายคาช็อกกี
ปอนด์แข็งค่าขึ้นเทียบดอลลาร์และยูโร หลังมีการเปิดเผยว่าตัวเลขค่าจ้างของอังกฤษพุ่งสูงสุดในรอบเกือบ 10 ปี
ณ เวลา 20.47 น.ตามเวลาไทย ปอนด์ดีดตัว 0.51% สู่ระดับ 1.3217 ดอลลาร์ และแข็งค่า 0.30% สู่ระดับ 0.8774 เทียบยูโร
สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) รายงานว่า ตัวเลขค่าจ้าง ซึ่งไม่นับรวมเงินโบนัส พุ่งขึ้น 3.1% ในเดือนมิ.ย.-ส.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 10 ปี
ทั้งนี้ ONS ยังเปิดเผยว่า ตัวเลขค่าจ้าง ซึ่งรวมเงินโบนัส เพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือนมิ.ย.-ส.ค.
ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางอังกฤษคาดการณ์ว่า ตัวเลขค่าจ้างโดยรวมจะมีการขยายตัว 2.5% ภายในสิ้นปีนี้ และเพิ่มเป็น 3.5% ในสิ้นปีหน้า
นอกจากนี้ ONS เปิดเผยว่า จำนวนคนว่างงานลดลง 47,000 คน สู่ระดับ 1.36 ล้านคนในเดือนมิ.ย.-ส.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานอยู่ที่ 4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กลางทศวรรษ 1970 ส่วนจำนวนผู้มีงานทำลดลง 5,000 คน อยู่ที่ระดับ 32.39 ล้านคน