สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 ต.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่ายอดขายบ้านมือสองปรับตัวลดลงในเดือนก.ย.
ยูโรแข็งค่าแตะ 1.1510 ดอลลาร์ จาก 1.1464 ดอลลาร์ ส่วนปอนด์แข็งค่าสู่ระดับ 1.3065 ดอลลาร์ จาก 1.3032 ดอลลาร์ ขณะที่ดอลลาร์ออสเตรเลียก็แข็งค่าแตะ 0.7118 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 0.7105 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์แข็งค่าสู่ระดับ 112.60 เยน จาก 112.18 เยน และแข็งค่าแตะ 0.9971 ฟรังก์สวิส จาก 0.9954 ฟรังก์สวิส
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.20% แตะระดับ 95.7118 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนก.ย.ปรับตัวลดลง 3.4% จากเดือนส.ค. แตะระดับ 5.15 ล้านยูนิต
เมื่อเทียบกับเดือนก.ย.ของปีก่อนหน้าแล้ว ยอดขายบ้านมือสองลดลง 4.1%
นักเศรษฐศาสตร์จาก NAR เปิดเผยว่า สาเหตุของการปรับตัวลดลงของยอดขายบ้านมือสองทั่วสหรัฐนั้น มาจากการที่อัตราดอกเบี้ยปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงราคาบ้านที่สูงขึ้น โดยราคาเฉลี่ยของบ้านเพิ่มขึ้น 4.2% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 258,100 ดอลลาร์ในเดือนก.ย.
สต็อกบ้านในตลาดอยู่ที่ระดับ 1.88 ล้านยูนิตในเดือนก.ย. ลดลงจากระดับ 1.91 ล้านยูนิตเมื่อเดือนส.ค. แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก.ย.ของปีก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 1.86 ล้านยูนิต
เมื่อพิจารณายอดขายบ้านและสต็อกบ้านในตลาด พบว่า ผู้ขายบ้านต้องใช้เวลา 4.4 เดือนในการขายบ้านจนหมดสต็อกในตลาด เพิ่มขึ้นจากระดับ 4.3 เดือนเมื่อเดือนส.ค. และยังเพิ่มขึ้นจากระดับ 4.2 เดือนเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า