ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 ต.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 ในเดือนก.ย. และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานรายปีที่พุ่งแตะเป้าหมายเงินเฟ้อของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ติดต่อกันเดือนที่ 5
ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 112.36 เยน จากระดับ 111.83 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0012 ฟรังก์ จากระดับ 0.9969 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3126 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3090 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1390 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1410 ดอลลาร์ ขณะเงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2805 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2830 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7060 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7093 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากที่ทรงตัวในเดือนส.ค. และหากเทียบรายปี ดัชนี PCE พื้นฐานดีดตัวขึ้น 2.0% ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับเป้าหมายเงินเฟ้อของเฟด และเป็นการแตะระดับ 2.0% ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 ในเดือนก.ย. โดยดีดตัวขึ้น 0.4% ในเดือนก.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐในเดือนก.ย.ได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพ และการซื้อรถยนต์
ส่วนสกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงหลังมีข่าวว่า นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี จะไม่ลงสมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 5 และจะไม่ชิงตำแหน่งประธานพรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน (CDU)
ทั้งนี้ นางแมร์เคิลประกาศเมื่อวานนี้ว่า ตนจะไม่ลงสมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 5 และจะไม่ชิงตำแหน่งประธานพรรค CDU หลังจากที่ทางพรรคมีผลการเลือกตั้งที่น่าผิดหวังในรัฐเฮ็สเซินเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่นางแมร์เคิลยืนยันว่าจะก้าวลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังจากที่ขึ้นครองอำนาจนับตั้งแต่ปี 2548
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนส.ค.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.จาก Conference Board, ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนต.ค.จาก ADP, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนต.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคการผลิตเดือนต.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ดุลการค้าเดือนก.ย., ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค. และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ย.