เงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า สหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป (EU) ใกล้บรรลุข้อตกลง Brexit ในภาคบริการทางการเงิน ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3013 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2778 ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรแข็งค่าสู่ระดับ 1.1408 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1326 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7206 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7077 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 112.65 เยน จากระดับ 112.92 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0023 ฟรังก์ จากระดับ 1.0082 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3087 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3161 ดอลลาร์แคนาดา
เงินปอนด์พุ่งขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่รายหนึ่งของอังกฤษกล่าวว่า สหราชอาณาจักรและ EU ใกล้บรรลุข้อตกลงในภาคบริการทางการเงินแล้ว ซึ่งจะทำให้กรุงลอนดอนสามารถเข้าถึงตลาดการเงินใน EU หลังจากที่สหราชอาณาจักรแยกตัวออกจาก EU
ทั้งนี้ กรุงลอนดอน ถือเป็นศูนย์กลางทางการเงินระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีการบริหารสินทรัพย์ทางการเงินของ EU คิดเป็นสัดส่วนราว 37% มูลค่า 6 ล้านล้านยูโร (6.82 ล้านล้านดอลลาร์) หรือเกือบ 2 เท่าเมื่อเทียบกับกรุงปารีสของฝรั่งเศส
นอกจากนี้ เงินปอนด์ยังได้แรงหนุนหลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด หากกระบวนการแยกตัวของสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) เป็นไปอย่างราบรื่น
ส่วนดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวนของสหรัฐ โดยผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของ ISM ร่วงลง 2.1% สู่ระดับ 57.7 ในเดือนต.ค. ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 59.0
ข้อมูลภาคการผลิตของ ISM สวนทางกับที่ไอเอชเอส มาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) สำหรับภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 55.7 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน จากระดับ 55.6 ในเดือนก.ย.
ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ประสิทธิภาพในการผลิตของแรงงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.2% ในไตรมาส 3 เมื่อเทียบรายไตรมาส หลังจากที่พุ่งขึ้น 3.0% ในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2558
นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 190,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. โดยจะต่ำกว่าระดับ 201,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับเฉลี่ยในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ดุลการค้าเดือนก.ย. และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ย.