ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่าเทียบยูโร-ปอนด์ หลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเดือนธ.ค.

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday November 10, 2018 06:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 พ.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดี พร้อมกับส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1335 ดอลลาร์ จาก 1.1356 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ก็อ่อนค่าลงแตะ 1.2975 ดอลลาร์ จาก 1.3049 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียลดลงสู่ระดับ 0.7226 ดอลลาร์ จาก 0.7249 ดอลลาร์

ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบเยนที่ระดับ 113.80 เยน จาก 113.98 เยน และอ่อนค่าเทียบฟรังก์สวิสที่ 1.0055 ฟรังก์ จาก 1.0068 ฟรังก์

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 2.00-2.25% ในการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดี นอกจากนี้ เฟดยังได้ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. หลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. มิ.ย. และก.ย. ซึ่งจะส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 4 ครั้งในปีนี้ ส่วนในปีหน้า เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง และอีก 1 ครั้งในปี 2563

แถลงการณ์ของเฟดระบุว่า การใช้จ่ายในภาคครัวเรือนมีการขยายตัวในระดับสูง ขณะที่ตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง โดยอัตราว่างงานได้ปรับตัวลง ส่วนกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก และความเสี่ยงอยู่ในระดับสมดุล ขณะที่อัตราเงินเฟ้อกำลังปรับตัวใกล้เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%

นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดมีโอกาสมากกว่า 90% ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า โดยจากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 93% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 4 ในปีนี้

ในส่วนของข้อมูลเศรษฐกิจนั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนต.ค.เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย. โดยได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของราคาอาหารและพลังงาน

ด้านผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 98.3 ในเดือนพ.ย. แต่ยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 98.0 หลังจากแตะระดับ 98.6 ในเดือนต.ค.

ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากพุ่งขึ้นแตะ 101.4 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ