ดอลลาร์ดีดตัวเหนือระดับ 113 เยนในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อของกลุ่มผู้นำเข้าของญี่ปุ่น หลังจากที่เป็นวันหยุดยาวช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ณ เวลา 20.49 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.27% สู่ระดับ 113.25 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.47% สู่ระดับ 128.71 เยน และดีดตัวขึ้น 0.23% สู่ระดับ 1.1366 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.21% สู่ระดับ 96.71
นักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวัง ขณะที่จับตาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งมีกำหนดพบปะกันนอกรอบการประชุม G20 ในปลายเดือนนี้ โดยมีการคาดการณ์กันว่าผู้นำทั้งสองจะสามารถเจรจา และแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า
ปธน.ทรัมป์กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาหวังว่าจะสามารถทำข้อตกลงกับจีน ขณะที่มีการพบปะกับปธน.สี จิ้นผิงในปลายเดือนนี้
นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ในวันพุธนี้
ยูโรดีดตัวเทียบดอลลาร์และเยน หลังมีรายงานว่า รัฐบาลอิตาลีส่งสัญญาณปรับลดตัวเลขเป้าหมายขาดดุลงบประมาณตามคำเรียกร้องของสหภาพยุโรป (EU)
แหล่งข่าวจากรัฐบาลอิตาลีเปิดเผยว่า พรรครัฐบาลกำลังพิจารณาปรับลดตัวเลขเป้าหมายขาดดุลงบประมาณสู่ระดับ 2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปี 2562 จากเดิมที่ระดับ 2.4% เพื่อหลีกเลี่ยงการลงโทษของ EU
นายลุยยี ดี ไมโอ รองนายกรัฐมนตรีอิตาลี กล่าวว่า ตราบใดที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมาตรการต่างๆในงบประมาณ การปรับลดเป้าหมายขาดดุลงบประมาณก็สามารถทำได้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว EU ปฏิเสธที่จะให้การรับรองงบประมาณประจำปี 2562 ของอิตาลี พร้อมกับประกาศเตรียมลงโทษอิตาลีด้วยการสั่งปรับเนื่องจากร่างงบประมาณดังกล่าวขัดต่อกฎหมายทางการเงินของ EU
คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของ EU ออกแถลงการณ์ระบุว่า "เรามีความเสียใจที่จะต้องยืนยันการประเมินของเราที่ว่า ร่างงบประมาณของอิตาลีไม่ได้สอดคล้องกับข้อเสนอของ EU ที่ให้ไว้ในวันที่ 13 ก.ค."
นอกจากนี้ EC ยังเตรียมเปิดกระบวนการพิจารณาลงโทษ กรณีประเทศสมาชิกมีการขาดดุลงบประมาณมากกว่าที่กำหนดไว้ (EDP)
ทั้งนี้ การดำเนินกระบวนการ EDP จะทำให้อิตาลีต้องเปิดเผยมาตรการปรับลดการขาดดุลงบประมาณ รวมทั้งกำหนดเส้นตายในการบรรลุเป้าหมาย ซึ่งหากอิตาลีไม่ดำเนินการดังกล่าว ก็อาจถูก EC สั่งปรับ
เมื่อเดือนที่แล้ว EC ได้ปฏิเสธข้อเสนอร่างงบประมาณประจำปี 2562 ของรัฐบาลอิตาลี โดยระบุว่า ร่างงบประมาณดังกล่าวขัดต่อกฎหมายทางการเงินของ EU หลังจากที่รัฐบาลอิตาลีได้เพิ่มตัวเลขขาดดุลงบประมาณสู่ระดับ 2.4% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปี 2562 ซึ่งสูงกว่าตัวเลขขาดดุลงบประมาณ 0.8% ของ GDP ของรัฐบาลชุดเดิม
ทั้งนี้ EU กำหนดให้ประเทศใน EU มีตัวเลขขาดดุลงบประมาณไม่เกิน 3% ของ GDP อย่างไรก็ดี EU เรียกร้องให้อิตาลีดำเนินการไปสู่การมีงบประมาณสมดุล เนื่องจากอิตาลีมีหนี้ในภาครัฐจำนวนมาก