ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนเทียบค่าเงินหลัก เหตุวิตกชัตดาวน์,ศก.โลกชะลอตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 24, 2019 07:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งสถานการณ์ชัตดาวน์ในสหรัฐที่ทำสถิติยาวนานที่สุดเป็นประวัติการณ์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3343 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3349 ดอลลาร์แคนาดา และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9947 ฟรังก์ จากระดับ 0.9970 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.57 เยน จากระดับ 109.29 เยน

สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1382 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1362 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3063 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2956 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7141 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7118 ดอลลาร์สหรัฐ

นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลก พร้อมกับเตือนว่ายังคงเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงหลายประการ ซึ่งรวมถึงความเสี่ยงจากการที่อังกฤษอาจแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยไม่มีการทำข้อตกลง และเศรษฐกิจจีนที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงอีก

ทั้งนี้ IMF คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัว 3.5% ในปีนี้ และ 3.6% ในปีหน้า ซึ่งต่ำกว่าระดับ 3.7% สำหรับทั้ง 2 ปีที่มีการคาดการณ์ในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว โดยนับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือนที่ IMF ปรับลดตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจโลก

นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ชัตดาวน์หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐยังคงสร้างแรงกดดันต่อดอลลาร์เช่นกัน ขณะที่นายเควิน แฮสเซทท์ ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจของปธน.ทรัมป์ กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจขยายตัวที่ระดับ 0% ในไตรมาสแรกปีนี้ หากภาวะชัตดาวน์ยังคงยืดเยื้อต่อไป

ทางด้านนักวิเคราะห์จากบาร์เคลย์สประกาศปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาสแรกสู่ระดับ 2.5% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ 3% โดยมีสาเหตุจากปัญหาชัตดาวน์

ขณะเดียวกัน บาร์เคลย์สยังได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ สู่ระดับ 2.8% จากเดิมที่ระดับ 2.9% และปรับลดคาดการณ์การขยายตัวในไตรมาส 4 ของปีนี้ สู่ระดับ 2.4% จากเดิมที่ระดับ 2.5%

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนม.ค.และภาคบริการเบื้องต้นเดือนม.ค.จากมาร์กิต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ