ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะมีความคืบหน้าในสัปดาห์นี้
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.16% แตะที่ระดับ 96.6049 เมื่อคืนนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐและจีนได้เริ่มการเจรจาการค้ารอบใหม่ที่กรุงวอชิงตันเมื่อวานนี้ และจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ขณะที่ทั้งสองฝ่ายต่างก็คาดหวังที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าให้ได้ก่อนสิ้นเดือนก.พ.
สื่อต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนได้เริ่มร่างบันทึกความเข้าใจ (MoU) เพื่อคลี่คลายประเด็นที่ยุ่งยากที่สุดของข้อพิพาทการค้าระหว่างทั้งสองฝ่าย ซึ่งถือเป็นความคืบหน้าที่สำคัญที่สุดที่จะนำไปสู่การยุติสงครามการค้าที่ยื้ดเยื้อมาเป็นเวลานานถึง 7 เดือน
แหล่งข่าวระบุว่า คณะผู้แทนของสหรัฐและจีนกำลังร่าง MoU จำนวน 6 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับประเด็นเชิงโครงสร้าง ซึ่งได้แก่ การโอนถ่ายเทคโนโลยีและการโจรกรรมทางไซเบอร์ สิทธิในการครอบครองทรัพย์สินทางปัญญา การบริการ ค่าเงิน การเกษตร และกำแพงการค้าที่ไม่เกี่ยวข้องกับภาษีศุลกากร
อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์ได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียเปิดเผยว่า ดัชนีการผลิตเดือนก.พ. อยู่ที่ระดับ -4.1 ซึ่งลดลงจากระดับ 17.0 ในเดือนม.ค. โดยดัชนีการผลิตติดลบเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2559 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะอยู่ที่ระดับ 14.0
ขณะที่สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองร่วงลง 1.2% สู่ระดับ 4.94 ล้านยูนิตในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2558 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดขายบ้านจะอยู่ที่ 5 ล้านยูนิตในเดือนม.ค.
ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 23,000 ราย สู่ระดับ 216,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่านั้น เพิ่มขึ้น 4,000 ราย สู่ระดับ 235,750 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีที่แล้ว