ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากความหวังครั้งใหม่เกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.39% แตะระดับ 96.5310 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 112.00 เยน จากระดับ 111.39 เยน ขณะที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9995 ฟรังก์ จากระดับ 0.9976 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3302 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3141 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1357 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1378 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3189 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3268 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.7070 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7093 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้น หลังสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐกำลังจัดเตรียมข้อตกลงการค้าสำหรับการลงนามของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในช่วงกลางเดือนนี้
อย่างไรก็ตาม การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอเมื่อคืนนี้เป็นปัจจัยถ่วงดอลลาร์ โดยผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 93.8 ในช่วงท้ายเดือนก.พ. โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 95.8 หลังจากแตะระดับ 95.5 ในช่วงต้นเดือนก.พ.
ไอเอชเอส มาร์กิต เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) สำหรับภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 53.0 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2560 จากระดับ 54.9 ในเดือนม.ค.
ส่วนสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 54.2 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2559 โดยต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 55.5 หลังจากแตะระดับ 56.6 ในเดือนม.ค.