ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 มี.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อที่ขยายต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี ซึ่งข้อมูลส่งผลให้ตลาดคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0069 ฟรังก์ จากระดับ 1.0112 ฟรังก์ และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3362 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3408 ดอลลาร์แคนาดา อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.27 เยน จากระดับ 111.22 เยน
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1296 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1240 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3084 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3150 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7087 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7061 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ.ของสหรัฐขยับขึ้น 0.2% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นในอัตราต่ำที่สุดในรอบ 2 ปีครึ่ง และหากเทียบรายปี ดัชนี CPI เดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 1.5% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2559
นอกจากนี้ ดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ขยับขึ้น 0.1% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 2.1% หลังจากเพิ่มขึ้น 2.2% ติดต่อกัน 3 เดือน
ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงหลังจากสมาชิกสภาสามัญชนของอังกฤษลงมติด้วยคะแนนเสียง 391-242 เสียงคว่ำข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ที่นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ทำไว้กับผู้นำสหภาพยุโรป (EU) เมื่อวานนี้ ส่งผลให้รัฐสภาอังกฤษต้องทำการลงมติในวันนี้ว่าจะเห็นชอบต่อการที่อังกฤษแยกตัวออกจาก EU โดยไร้ข้อตกลงหรือไม่
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนม.ค., การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างเดือนม.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือนก.พ., ยอดขายบ้านใหม่เดือนม.ค., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนมี.ค.จากเฟดนิวยอร์ก, การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน