ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 มี.ค.) ก่อนที่นักลงทุนจะรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่วันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นหลังจากมีรายงานว่า นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ จะเรียกร้องให้ประธานสภายุโรปขยายเวลาการที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3268 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3251 ดอลลาร์ ขณะที่สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.1352 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1337 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.7090 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7099 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.41 เยน จากระดับ 111.40 เยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9992 ฟรังก์ จากระดับ 1.0010 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3309 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3351 ดอลลาร์แคนาดา
เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นหลังจากทำเนียบนายกรัฐมนตรีอังกฤษยืนยันว่า นางเทเรซา เมย์ จะส่งหนังสือไปยังนายดนัลด์ ทัสค์ ประธานสภายุโรป เพื่อขอร้องให้มีการขยายเวลา Brexit ออกไป ซึ่งในการขยายเวลานั้นจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากบรรดาชาติสมาชิกสภาพยุโรป (EU)
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ จะพบปะกับผู้นำ 27 ชาติสมาชิกของ EU ในการประชุมซัมมิต EU ซึ่งจะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้
นักลงทุนจับตาการผลประชุมนโยบายการเงินของเฟดซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่วันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย เพื่อหาสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ขณะที่ CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์อัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนม.ค. น้อยกว่านักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% อันเนื่องมาจากผลกระทบของยอดสั่งซื้อคอมพิวเตอร์และผลิตภัณฑ์อิเลคทรอนิคส์ที่ร่วงลงอย่างหนัก
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนมี.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนมี.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนมี.ค.จากมาร์กิต, ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนม.ค.