ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 มี.ค.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ลดลงมากกว่าคาด ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงเนื่องจากความกังวลที่ว่า อังกฤษอาจจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) แบบไร้ข้อตกลง
ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.77 เยน จากระดับ 110.62 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9937 ฟรังก์ จากระดับ 0.9900 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3376 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3269 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงแตะเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1353 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1445 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3075 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3245 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7107 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7142 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยว่า ดัชนีภาวะธุรกิจในภูมิภาคมิด-แอตแลนติก ดีดตัวสู่ระดับ 13.7 ในเดือนมี.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.0 จากระดับ -4.1 ในเดือนก.พ.
ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 9,000 ราย สู่ระดับ 221,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ทางด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 225,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงเนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า อังกฤษอาจจะเผชิญสถานการณ์ Brexit แบบไร้ข้อตกลง โดยนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้ส่งจดหมายไปยังนายโดนัลด์ ทัสก์ ประธานคณะมนตรียุโรป เพื่อขอขยายกำหนดเวลา Brexit จากกำหนดเดิมในวันที่ 29 มี.ค. ออกไปเป็นวันที่ 30 มิ.ย.
อย่างไรก็ตามรายงานล่าสุดระบุว่า นายโดนัลด์ ทัสก์ ประธานคณะมนตรียุโรป เปิดเผยว่า 27 ชาติสมาชิกของสหภาพยุโรป (EU) ได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ให้เลื่อนเวลา Brexit ตามคำร้องขอของนางเทเรซา เมย์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายทัสก์เปิดเผยผ่านทางทวิตเตอร์ว่า EU ได้ตกลงที่จะขยายเวลาการบังคับใช้มาตรา 50 ไปจนถึงวันที่ 22 พ.ค. หากรัฐสภาอังกฤษลงมติอนุมัติข้อตกลง Brexit ในสัปดาห์หน้า ซึ่งหากข้อตกลง Brexit ไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาอังกฤษในสัปดาห์หน้า ทาง EU ก็จะขยายเวลาการบังคับใช้มาตรา 50 ออกไปเป็นวันที่ 12 เม.ย.
นายทัสก์ได้กล่าวเมื่อไม่นานมานี้ว่า EU พร้อมที่จะขยายกำหนดเวลาการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป ออกไปอีก 3 เดือนตามที่อังกฤษร้องขอ แต่มีเงื่อนไขว่า รัฐสภาอังกฤษจะต้องให้การอนุมัติข้อตกลง Brexit ที่นางเทเรซา เมย์ ทำไว้กับผู้นำ EU ก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ มาตรา 50 เป็นบทบัญญัติควบคุมกระบวนการเปลี่ยนผ่านเป็นเวลา 2 ปี ก่อนที่อังกฤษจะแยกตัวออกจาก EU อย่างสิ้นเชิง
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนมี.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนมี.ค.จากมาร์กิต, ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนม.ค.